น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,550-1,600 จุด ได้รับแรงกดดันภายหลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 4.9%YoY และ 0.6%MoM สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7%YoY จากระดับ 4.7%YoY และ 0.5%MoM หลังจากทรงตัวในเดือน ก.ค.
อีกทั้งแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของสัญญา CDS ระยะเวลา 5 ปีของเครดิตสวิสพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ผู้บริหารเร่งสร้างความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่
ขณะที่สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังมีโอกาสยืดเยื้อต่อภายหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงนามในกฤษฎีกาเพื่อรับรองความเป็นอิสระของแคว้นซาปอริซเซียและแคว้นเคอร์ซอน ซึ่งเป็น 2 แคว้นทางตอนใต้ของยูเครนที่รัสเซียสามารถยึดครองได้เป็นบางส่วน ส่วนยูเครนประกาศว่าสามารถยึดคืนพื้นที่ศูนย์ส่งกำลังบำรุงทางตะวันออกของเมืองลีมันได้โดยสมบูรณ์แล้ว
ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดวันหยุดยาวส่งผลให้ Fund Flow นักลงทุนต่างชาติอาจเบาบางลง
ปัจจัยที่ยังต้องจับตา
วันที่ 4 ต.ค. สภาผู้ส่งออกแห่งประเทศไทย (สรท.) แถลงสถานการณ์การส่งออก
วันที่ 5 ต.ค. กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า
วันที่ 7 ต.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
และวันที่ 26-29 ต.ค. ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30
ปัจจัยต่างประเทศ วันที่ 5 ต.ค. กำหนดประชุมโอเปกพลัสเกี่ยวกับนโยบายการผลิต สหภาพยุโรป (อียู) รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ก.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล สหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ย.จาก ADP รวมถึงยอดนำเข้า-ส่งออกและดุลการค้าเดือน ส.ค.
น.ส.วิลาสินี แนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลวันที่ 1 ต.ค.65 ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประกอบกับการเข้าสู่ฤดูกาลไฮซีซันในช่วงปลายปี และการออกแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เช่น ตั๋วเครื่องบินราคาถูก โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ ERW, CENTEL, VRANDA, ASAP และ SPA
รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค.65 เติบโตดีจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ได้แก่ น้ำตาลทราย ไก่สดแช่แข็ง อัญมณีและเครื่องประดับ โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์ ได้แก่ BRR, KSL, TFG, GFPT, ASIAN และ JUBILE
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ในเดือนนี้ยังคงเป็นโจทย์สำคัญสำหรับทองคำ เนื่องจากช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางของอังกฤษกลับมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยไม่จำกัดจำนวน เพื่อสร้างเสถียรภาพตลาดพันธบัตรและตลาดการเงินภายในประเทศ ผลส่งให้ดัชนีดอลลาร์เริ่มอ่อนตัวลง เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความผันผวนให้ราคาทองคำในระยะสั้น
แต่ในช่วงต้นเดือนยังมีปัจจัยที่ตลาดจับตา คือ ภาคแรงงานของสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อ หากยังสูงกว่าคาดการณ์อาจเป็นปัจจัยให้เฟดเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไป
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำยังทรงตัวในระดับต่ำเพื่อสร้างฐาน มุมมองทองคำอาจ sideway ในกรอบ 1,600-1,700 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ การรีบาวนด์ยังทำได้จำกัด ขณะที่ตลาดยังถูกกดดันต่อเนื่อง จึงแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้