“บิทคับ” ออกโรงแจงเหตุรับประกันราคาซื้อคืนเหรียญ KUB Coin จากพันธมิตรรายใหญ่ อ้างเป็นการยืนยันเข้าตรวจสอบธุรกรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและแรงจูงใจให้นักลงทุน ด้านรายย่อยขอแจม! ร่วมตรวจสอบธุรกรรม และให้การันตีรับซื้อคืนเช่นเดียวกันรายใหญ่ พร้อมตังข้อสังเกตหรือเป็นเพียงข้ออ้างเพื่ออุ้มพาร์ตเนอร์รายใหญ่หวังพยุงราคาเหรียญ
จากกรณีที่บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (Bitkub) ออกมารับประกันราคาซื้อคืนเหรียญ Bitkub Coin (KUB) ให้กับบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN ในราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุน และบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ในราคาไม่ต่ำกว่า 90 บาท แต่หากมีกำไรก็สามารถรับไปอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการดังกล่าว ขัดต่อหลักธรรมาภิบาลการดำเนินธุรกิจ การเอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยที่ต้องแบกรับความเสี่ยงเอง และเป็นการอุ้มเฉพาะพันธมิตรที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ เพื่อหวังประโยชน์ช่วยพยุงราคาเหรียญ และเป็นการสร้างราคาและควบคุมราคาเหรียญในตลาดหรือไม่นั้น
ล่าสุดบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (Bitkub) ได้ออกมาชี้แจงประเด็นข้อตกลงการรับประกันราคาซื้อคืนดังกล่าว ระบุว่า ในช่วงเริ่มต้นของโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีนั้น เป็นเรื่องปกติและคาดหมายได้ที่แต่ละโปรเจกต์ต้องปกป้องผู้ลงทุนในช่วงแรกเริ่ม (Early Adopters) จากความผันผวนที่สูงมากของโลกคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งแต่ละเหรียญจะมีมาตรการและวิธีการที่แตกต่างกันในการสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้มีนักลงทุนเข้าร่วมลงทุนในช่วงริเริ่มหรือช่วงเปลี่ยนผ่านของโปรเจกต์
เหรียญบิทคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งเป็นเหรียญหลักในโลกคริปโตเคอร์เรนซีนั้น ในช่วงแรกเริ่มมีการสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นในการขุดเหรียญเพื่อยืนยันธุรกรรม (Minning) ด้วยรางวัลสูงถึง 50 บิทคอยน์ต่อบล็อก (Nelruk, 2017) ซึ่งปัจจุบันมีการปรับลดลงไปแล้วกว่า 3 ครั้ง จนเหลือ 6.25 บิทคอยน์ต่อบล็อก ด้วยกลไกนี้ทำให้ผู้ลงทุนในช่วงแรกเริ่มมีความมั่นใจว่าการเริ่มต้นลงทุนในการขุดเหรียญเพื่อยืนยันธุรกรรมก่อนที่จะมีการปรับลดครั้งต่อไป จะมีผลกำไรที่มากกว่าเนื่องจากได้รางวัลต่อบล็อกมากกว่า และการลดลงของรางวัลการขุดจะส่งผลให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นในระยะยาว ด้วยกลไกนี้ทำให้ในเครือข่ายบิทคอยน์มีนักขุดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งความแข็งแกร่งของเครือข่ายในปัจจุบันนั้นมีมากจนเทียบไม่ได้กับความแข็งแกร่งในช่วงยุคแรกเริ่มของเหรียญแม้แต่น้อย (Blockchain.com, 2022) เป็นผลมาจากการสร้างแรงจูงใจในการขุด และรากฐานที่สำคัญของเหรียญ
เหรียญไบแนนซ์ (Binance coin) มีกลไกในการซื้อคืนและเบิร์นเหรียญ (Buyback and burn) ในทุกไตรมาส (Binance Blog, 2021) ซึ่งกลไกดังกล่าวเชื่อว่าสามารถที่จะลดความผันผวนของราคาเหรียญได้จากการลดอุปทานของเหรียญ ส่งผลให้ผู้ลงทุนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในเหรียญ (Schulz, 2019)
เหรียญโซลานา (Solana) ในช่วงต้นปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงแรกเริ่มของโปรเจกต์ มีการรับประกันราคาซื้อคืนกับผู้ซื้อที่จะเข้ามายืนยันธุรกรรม (Node Validator) เป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่มีการวางเดิมพันตรวจสอบธุรกรรม (Staking) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ตรวจสอบระบบในช่วงริเริ่มโปรเจกต์ (Solana, 2020)
การรับประกันราคาซื้อคืนดังกล่าวเป็นการรับประกันให้กับผู้ที่จะเข้ามายืนยันธุรกรรม (Node Validator) เท่านั้น โดยต้องล็อคเหรียญไว้ (Staking) เพื่อตรวจสอบธุรกรรม (Validating) เป็นระยะเวลา 1 ปี และเมื่อครบกำหนดหากราคาเหรียญในตลาดต่ำกว่าราคาที่ผู้ลงทุนเข้าซื้อในตอนแรก ผู้ลงทุนสามารถขายเหรียญคืนให้ Solana Foundation ได้ด้วยราคา 90% ของราคาที่ซื้อ กลไกดังกล่าวเป็นการสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้มีนักลงทุนเข้าร่วมทุนในช่วงริเริ่มโปรเจกต์
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่าแต่ละเหรียญมีวิธีการในการสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนช่วงแรกเริ่มจากความผันผวนที่สูงมากของโลกคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งกรณีของบิทคับ ข้อตกลงการรับประกันราคาซื้อคืนขั้นต่ำนั้นคล้ายกับวิธีการที่เหรียญโซลานานั้นใช้ คือการรับประกันราคาซื้อคืนให้กับผู้ที่จะเข้ามายืนยันธุรกรรม (Node Validator) เป็นเวลา 1 ปี กลไกดังกล่าวเป็นการสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้มีนักลงทุนเข้าร่วมทุนในช่วงเปลี่ยนผ่านฉันทามติ (Consensus) จาก Proof-of-Authority เป็นฉันทามติแบบ Proof-of-Staked-Authority โดยผู้ที่จะเข้ามายืนยันธุรกรรม (Validator Node) จะต้องเป็นผู้ที่ได้การยอมรับจากการครอบครองเหรียญ KUB จํานวนไม่น้อยกว่า 250,000 เหรียญ หรือเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงทางสังคม โดยทั้ง 2 อย่างนี้เป็นสิ่งจําเป็นที่ทําให้เครือข่าย Bitkub Chain โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
บิทคับอยู่ในระหว่างการติดต่อกับตัวแทนขององค์กรระดับแนวหน้าเพื่อเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย ในขณะเดียวกันก็มีการประสานงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้เกิดการใช้ Bitkub Chain ออกไปสู่ระดับประเทศ ภูมิภาค และในระดับโลก ซึ่งการเปลี่ยนผ่านฉันทามตินั้นมีความเสี่ยงที่เปรียบได้กับการริเริ่มโปรเจกต์ใหม่
ดังที่สามารถเห็นได้จากการเปลี่ยนผ่านของเหรียญอีเธอเรียม (Ethereum) ที่มีแผนที่จะเปลี่ยนฉันทามติจาก Proof-of-Work ไปเป็นแบบ Proof-of-Stake ผ่านการอัพเดท Constantinople ตั้งแต่ปี 2018 แต่มีการเลื่อนอยู่บ่อยครั้ง จนถึงปัจจุบันปี 2022 การเปลี่ยนผ่านฉันทามติไปเป็นแบบ Proof-of-Stake ของเหรียญอีเธอเรียมก็ยังไม่แล้วเสร็จ (Wu, 2021) ดังนั้นบิทคับจึงต้องมีมาตรการในการสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้มีนักลงทุนเข้าร่วมทุนในช่วงเปลี่ยนผ่านของโปรเจกต์
อ้างอิงจาก Bitkub Chain Whitepaper V2.2 บิทคับขอยืนยันอีกครั้งว่า “Bitkub Chain มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้เหล่านักพัฒนา ผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กและกลาง วิสาหกิจเริ่มต้นหรือบริษัทสตาร์ทอัพ และผู้ใช้งานทั่วไป สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนได้อย่างทั่วถึง” (Bitkubchain, 2022) โดยในกระบวนการพัฒนาชุมชนบล็อกเชนเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้งานจริง บิทคับได้ติดต่อบริษัทพันธมิตรเพื่อให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายแล้ว และในอนาคตบิทคับจะค้นหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทหรือธุรกิจที่มีบทบาทสําคัญกับเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับโลกรวมถึงวิสาหกิจเริ่มต้นหรือบริษัทสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มธุรกิจได้ไม่นานเพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายตัวได้อย่างราบรื่นผ่านการเปลี่ยนสินทรัพย์แบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคน ซึ่งทางทีมการตลาดของบิทคับจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าพันธมิตรแบบไหนที่เข้าร่วมแล้วจะสามารถสนับสนุนให้เครือข่ายมีคุณค่ามากขึ้นได้
จากการชี้แจงของ “บิทคับ” ที่กล่าวอ้างบรรดาเหรียญชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Binance coin, Solana หรือ Ethereum เพื่อพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับ “บิทคับ” เอง ก็ต้องตั้งคำถามเพิ่มว่า รายย่อยฟังขึ้นหรือไม่ถามใจเธอดู? และคำถามที่ถามมา คือ ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เปิดเป็นพอร์ทให้นักลงทุนรายย่อยรวมกันเข้าลงทุนซื้อเหรียญ Bitkub Coin (KUB) และร่วมตรวจสอบธุรกรรม พร้อมมีการรับประกันราคาซื้อคืนเช่นเดียวกันกับพันธมิตรรายใหญ่ เมื่อครบกำหนดเวลาขายคืนไม่มีขาดทุน มีแต่กำไร ซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่านำเงินไปฝากธนาคารอีกด้วย หรือว่าการตรวจสอบธุรกรรม เป็นแค่ข้ออ้าง จะปั้นเป็นพาร์ตเนอร์หรือเพื่อธุรกรรมอะไรก็ได้แล้วแต่จะเมคขึ้นมา แต่ให้ซื้อเหรียญค้างไว้เพื่อพยุงเหรียญจากที่ไม่มีอะไรรองรับเลยคือเรื่องจริง?
อ่านย้อนหลัง >>> PROEN หัวจะปวดเตรียมแถลงทุ่มงบซื้อ KUB 2.5 แสนเหรียญ ทุนเฉลี่ย 291 บาท ล่าสุด -65.29%
อ่านย้อนหลัง >>> รายย่อยว่าไง?? PROEN กางสัญญาขอ Bitkub รับประกันราคาซื้อคืน KUBCoin ไม่ต่ำกว่าราคาทุน
อ่านย้อนหลัง >>> จาก PROEN ถึง TVD "เสี่ยซ้ง" ทุ่มงบ 13 ล้านซื้อ KUBcoin ทำสัญญาประกันความเสี่ยงไว้ที่ 90 บาท