"เสี่ยซ้ง" เผยเตรียมทุ่มงบ 80 ล้านบาท แบ่งเป็นเข้าลงทุนเหมืองขุดคริปโตฯ ประมาณ 53 ล้านบาท ร่วมทุนพันธมิตร Node Validator ของ Bitkub โดยเข้าถือเหรียญ KUB Coin จำนวน 125,000 เหรียญ ในราคาทุนที่ 104.26 บาท/เหรียญ โดยผันงบลงทุนประมาณ 13 ล้านบาท ส่วนงบลงทุนอีก 15 ล้านบาท จะใช้ในการลงทุนระบบ Proof of stake เพื่อรองรับ Node Validator ของ Bitkub
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ "เสี่ยซ้ง" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีวี ไดเร็ค หรือ TVD กล่าวว่า การเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ และระบบที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล เป็นแผนงานส่วนหนึ่งในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ TVD ให้ปรับตัวได้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเสริมประโยชน์จากการใช้ระบบที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลในการทำการตลาด และส่งเสริมการนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งเป็นแผนในการพลิกฟื้นธุรกิจของบริษัทให้พลิกกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาเผชิญกับความท้าทายเข้ามาค่อนข้างมาก
ในส่วนของแผนการลงทุนบริษัทวางงบลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ รวมกว่า 80 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกจะใช้เงินลงทุนราว 53 ล้านบาทใน 3 ส่วน ได้แก่ ซื้อเครื่องขุด Bitcoin จำนวน 25 เครื่อง กำลังการขุดราว 0.001 BTC/วัน โดยบริษัทเตรียมสถานที่และกำลังผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการอนุญาต ซึ่งได้รับอัตราค่าไฟในราคาที่ถูก รวมถึงจะมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อเสริมกำลังการใช้ไฟฟ้าในการรองรับการขุดเหมือง Bitcoin คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 3/65
รวมทั้งการลงทุนเข้าเป็นสมาชิก Node Validator ของ Bitkub ซึ่งบริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อเหรียญ KUB Coin ที่ราคา 104.26 บาท/เหรียญ จำนวน 125,000 เหรียญ ใช้เงินทุนราว 13 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่าเป็นราคาที่ต่ำและมีความเหมาะสม แม้จะยังมีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาเหรียญอยุ่บ้าง แต่บริษัทได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงรองรับในระดับ 12% หรือจำนวน 15,000 เหรียญ โดยรองรับราคาลดลงมาได้ต่ำสุดถึง 90 บาท และมีระยะเวลาสัญญา 1 ปี
"การเข้าลงทุนใน Node Validator ของ Bitkub ไม่ได้คาดหวังการเก็งกำไร แต่มองประโยชน์ในการต่อยอดเข้ามาเสริมด้านการทำการตลาดในการออกเหรียญ หรือ NFT ให้แก่ลูกค้า หรือการทำกิจกรรมทางการตลาดในแคมเปญต่างๆ และโอกาสการเข้าสู่ Metaverse ต่อไปในอนาคต"
ขณะที่งบลงทุนอีก 15 ล้านบาท จะใช้ในการลงทุนระบบ Proof of stake เพื่อรองรับ Node Validator ของ Bitkub โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาส 3/65 ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับธุรกิจบริษัท ทีวีดี เอ็ม จำกัด (TVD M) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทในการขายสินค้าผ่านช่องทีวีดาวเทียม จะเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจที่ดูแลการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโตฯ และจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาดูแลงานในส่วนการขายสินค้าแทน TVD M พร้อมกับจัดตั้งบริษัท Xpresso มาดูแลในส่วนของงานที่เกี่ยวข้องกับบริการจัดส่งสินค้า และยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์ขายประกัน และธุรกิจบริการสั่งอาหารที่ร่วมกับพันธมิตร คือ abpo ซึ่งจะเข้ามาเป็นส่วนเสริมธุรกิจของ TVD
นอกจากนี้ ประเด็นการเปลี่ยนธุรกิจของ TVD เป็นรูปแบบ Holding คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/65 และจะเริ่มเห็นการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมที่ชัดเจน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ ซึ่งบริษัทคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกฟื้นภาพรวมของธุรกิจให้กลับมาเติบโตในระยะยาวได้อย่างมั่นคง คาดว่าจะใช้ระยะเวลาราว 6 เดือนหลังจากไตรมาส 3/65 ที่จะเริ่มเห็นความชัดเจนของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ ที่เริ่มเห็นผลบวกต่อธุรกิจอย่างชัดเจน
ล่าสุด ปิดตลาดราคาหุ้นของ TVD ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1.75 บาท/หุ้น หรือ 8.85% โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1.90 บาท/หุ้น และปรับตัวลดลงมากที่สุดที่ 1.70 บาท/หุ้น โดยราคาปิดวันก่อนหน้าอยู่ที่ 1.92 บาท/หุ้น ซึ่งการปรับตัวลดลงนั้นส่วนหนึ่งมาจากความกังวลถึงอัตราความเสี่ยงในการเข้าไปลงทุนในธุรกิจคริปโตฯ ซึ่งขณะนี้ภาพรวมตลาดยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวผันผวนรุนแรง
“ที่ผ่านมา TVD เผชิญความท้าทายมาค่อนข้างมาก โดน Disrupt หลายรูปแบบ โดยส่วนหนึ่งที่เราได้รับความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นในการเพิ่มทุนเข้ามามีเงิน 815 ล้านบาท ทำให้เราสามารถเริ่มต้นกลับมาสู้ต่อได้ รวมกับทีมคณะกรรมการและผู้บริหารในโครงสร้างใหม่ของ TVD ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตของ TVD ในยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง” นายทรงพล กล่าวทิ้งท้าย