xs
xsm
sm
md
lg

KUB Coin สองมาตรฐาน รายย่อยตาย Bitkub อุ้มรายใหญ่ทำกำไร ปั่นเหรียญ ก.ล.ต. ว่ายังไง?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ธรรมาภิบาลอยู่ไหน ยุติธรรมกับรายย่อยแล้วหรือ? เมื่อบิทคับ เจ้าของเหรียญ KUB ช่วยเหลือพาร์ตเนอร์ธุรกิจ มีออปชันล้มบนฟูกรองรับ หลังควักเงินก้อนโตเข้าซื้อเหรียญ KUB แต่ไม่จำเป็นต้องวิตกว่าราคาเหรียญจะรูดลงแค่ไหน เพราะได้การันตีรับซื้อคืนราคาทุนหรือทำสัญญาป้องกันความเสี่ยง และถือเป็นกลยุทธ์จับรายใหญ่ช่วยพยุงราคาเหรียญ ขณะที่ปล่อยรายย่อยตายไปเอง จนต้องร้องขอความเป็นธรรมกับ ก.ล.ต. สะท้อนให้เห็นว่า “บิทคับ” โดยร่วมกับพันธมิตร และ มาร์เกตเมกเกอร์คุมเกมราคา KUB - ปั่นตลาดได้? แถมชวนสงสัยกลุ่มใหญ่ “อินไซเดอร์” เทขายเหรียญทำกำไรก่อน โอดไม่ต่างจากบ่อนพนันที่เจ้ามือมีแต่ได้กับได้

จาก LUNA เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดัง มาถึง Bitkub Coin (KUB) ของกลุ่ม “บิทคับ โฮลดิ้ง” ก็เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ไม่ยอมน้อยหน้า โดยเฉพาะข่าวประเภทบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ไหลออกมาต่อเนื่อง อย่างเช่นล่าสุด ในกรณีของบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN และบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD

ชนวนเหตุที่น่าสงสัย เริ่มจากเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2565 บมจ.โปรเอ็น คอร์ป ตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (Bitkub) เพื่อวัตถุประสงค์การเป็นพาร์ตเนอร์ในการเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validator Node) แบบ PoSA (Proof of Stake Authority) ในระบบการตรวจสอบธุรกรรมบล็อกเชน (Block chain) ของ Bitkub (Bitkub Blockchain Technology Co., Ltd.) จำนวน 2.5 แสนเหรียญ ในราคาลงทุนเฉลี่ยเหรียญละ 291 บาท (ประมาณ 72.9 ล้านบาท)

แต่ในช่วงที่ผ่านมา ราคาเหรียญ KUB ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามากดดันจนหลุดต่ำกว่า 100 บาทต่อ 1 เหรียญเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2565 หลังจากที่เคยทำราคาสูงสุดไว้ที่ประมาณ 580 บาท โดยในวันดังกล่าวราคา KUB หล่นไปถึง 95.02 บาทลดลง 484.98 บาท หรือกว่า 83.62% จากจุดสูงสุดของราคาเหรียญ และล่าสุด (31พ.ค.) ราคาเหรียญเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 112 บาทต่อ 1 เหรียญ นั่นทำให้มูลค่าลงทุนของ PROEN ลดลงไปประมาณ 179 บาท หรือกว่า 159%

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้นักลงทุนที่ถือหุ้น PROEN ตัดสินใจเทขายหุ้นออกมา เนื่องจากกังวลว่าบริษัทจะได้รบผลกระทบจากการลงทุนในเหรียญ KUB จนราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 7.00 บาทต่อหุ้น จากที่เคยทะยานขึ้นที่ระดับ 10.00 บาทต่อหุ้น ในช่วงมีนาคม 2565

ส่งผลให้ผู้บริหารบริษัทต้องออกมาชี้แจง (31 พ.ค.) ว่า การร่วมลงทุนกับ Bitkub นั้นมีข้อตกลงในการยืนยันการรับประกันราคาซื้อคืนขั้นต่ำเมื่อครบกำหนดภายในวันที่ 31 พ.ค.2566 ที่ไม่ต่ำกว่าราคาที่บริษัทลงทุน ซึ่งอ้างอิงกับราคาซื้อขายแลกเปลี่ยนบนศูนย์กลางซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub ณ วันที่บริษัทลงทุน แต่หากราคาซื้อขายที่อ้างอิงของสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub สูงกว่าราคาขั้นต่ำที่รับประกัน ทางบริษัทสามารถตัดสินใจขายทำกำไรได้ตามราคาแลกเปลี่ยน ณ วันนั้น จึงไม่ได้รับผลกระทบจากราคาเหรียญ KUB ในปัจจุบัน

ขณะที่ บมจ.ทีวี ไดเร็ค หรือ TVD ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่ประกาศเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ และระบบที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล โดยให้เหตุผลว่าเป็นแผนงานส่วนหนึ่งในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ TVD ให้ปรับตัวได้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเสริมประโยชน์จากการใช้ระบบที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลในการทำการตลาด และส่งเสริมการนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งเป็นแผนในการพลิกฟื้นธุรกิจของบริษัทให้พลิกกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาเผชิญกับความท้าทายเข้ามาค่อนข้างมาก

ในส่วนของแผนการลงทุนบริษัทวางงบลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ รวมกว่า 80 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกจะใช้เงินลงทุนราว 53 ล้านบาทใน 3 ส่วน ได้แก่ ซื้อเครื่องขุด Bitcoin จำนวน 25 เครื่อง กำลังการขุดราว 0.001 BTC/วัน โดยบริษัทเตรียมสถานที่และกำลังผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการอนุญาต ซึ่งได้รับอัตราค่าไฟในราคาที่ถูก รวมถึงจะมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อเสริมกำลังการใช้ไฟฟ้าในการรองรับการขุดเหมือง Bitcoin คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 3/65

รวมทั้งการลงทุนเข้าเป็นสมาชิก Node Validator ของ Bitkub ซึ่งบริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อเหรียญ KUB Coin ที่ราคา 104.26 บาท/เหรียญ จำนวน 125,000 เหรียญ ใช้เงินทุนราว 13 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่าเป็นราคาที่ต่ำและมีความเหมาะสม แม้จะยังมีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาเหรียญอยู่บ้าง แต่บริษัทได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงรองรับในระดับ 12% หรือจำนวน 15,000 เหรียญ โดยรองรับราคาลดลงมาได้ต่ำสุดถึง 90 บาท และมีระยะเวลาสัญญา 1 ปี ส่วนงบลงทุนอีก 15 ล้านบาท จะใช้ในการลงทุนระบบ Proof of stake เพื่อรองรับ Node Validator ของ Bitkub โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาส 3/65 ทั้งหมด

"การเข้าลงทุนใน Node Validator ของ Bitkub ไม่ได้คาดหวังการเก็งกำไร แต่มองประโยชน์ในการต่อยอดเข้ามาเสริมด้านการทำการตลาดในการออกเหรียญ หรือ NFT ให้แก่ลูกค้า หรือการทำกิจกรรมทางการตลาดในแคมเปญต่างๆ และโอกาสการเข้าสู่ Metaverse ต่อไปในอนาคต" “ทรงพล ชัญมาตรกิจ” หรือ "เสี่ยซ้ง" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD ให้ความเห็น


อุ้มพันธมิตร-ปล่อยรายย่อยตาย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 กรณี ทำให้เริ่มมีหลายฝ่ายมองว่า เป็นการเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป หรือผู้บริโภคที่เข้ามาซื้อเหรียญ KUB ไว้หรือไม่? เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องยอมรับความเสี่ยงต่อการขึ้นลง หรือความผันผวนของราคาเหรียญด้วยตนเอง และ “บิทคับ” ก็ไม่มีมาตรการอะไรออกมารับรอง

เรื่องนี้สวนทางกับบริษัทที่เข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจของ Bitkub เพราะบริษัทเหล่านี้กลับได้สิทธิพิเศษในการรับประกันราคาซื้อคืนที่ต่ำกว่าทุน หรือมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากความเสียหายถ้ามูลค่าเหรียญที่ลงทุนปรับตัวลดลง เปรียบเสมือนได้รับเกราะป้องกันตัวที่แข็งแกร่ง เพียงแค่ใช้เงินทุนในจำนวนมากเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์ธุรกิจ จากนั้นก็นอนรอตักตวงผลกำไรจากราคาเหรียญเมื่อครบเกณฑ์ 1 ปี

แต่ที่ผ่านมายังมีเม็ดเงินจำนวนมากของนักลงทุนทั่วไปที่สูญเสียไปจากการที่ราคาเหรียญ KUB ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาเหรียญเคยขึ้นไปถึง 580 บาท และการปรับตัวลงมาอย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมาย่อมทำให้นักลงทุนหลายคนขาดทุน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เริ่มมีนักลงทุนหลายรายอยากให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ควรเข้ามาจัดการในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมองว่าสิ่งที่ “บิทคับ” ทำนั้นไม่ยุติธรรมต่อผู้ถือครองเหรียญ KUB ทั่วไปที่จะต้องเผชิญชะตากรรมด้วยเอง ขณะที่บรรดาพาร์ตเนอร์ของบริษัทต่างไม่ได้รับผลกระทบ หรือความเสียหายจากการลงทุนจนเรียกได้ว่า ไม่ต่างจากบ่อนพนันที่เจ้ามือมีแต่ไล่สะสมทุน แล้วรอรับผลกำไรอยู่ขาเดียว

สะท้อนเจ้ามือคุมราคา-ปั่นตลาด

ธรรมาภิบาลในการทำธุรกิจของบิทคับ เคยถูก ก.ล.ต.ตรวจสอบและลงโทษมาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ ก.ล.ต.ก็ไม่ควรจะปล่อยผ่านเช่นกัน

ว่าไปแล้ว การที่บิทคับ นำ KUB หรือที่คนในวงการมองว่า เป็น “เหรียญมโน” มีมูลค่าคิดไว้ 30 บาท โดยที่ใช้ประโยชน์เพียงเป็นส่วนลดน้อยนิดของค่าธรรมเนียมมหาโหด 0.25% เข้าจดทะเบียนในตลาดซื้อขายของตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่บิดเบี้ยวมาตั้งแต่ต้น

สิ่งที่น่าสนใจคือ ล่าสุด (7 พ.ค.) ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งปรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ (BO) และกรรมการ 5 คน ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัล มีความผิดกรณีที่คัดเลือก Bitkub Coin (เหรียญ KUB) เข้าซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกและเพิกถอนสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.และไม่ได้คำนึงถึงมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์

เนื่องจากตามประกาศของ ก.ล.ต.ได้ห้ามศูนย์ซื้อขายนำโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยศูนย์ซื้อขายเองหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ซื้อขาย มาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นๆ ซึ่งถือเป็นการกระทำหรือละเว้นกระทำการอันเป็นหน้าที่ เป็นเหตุให้ “บิทคับ ออนไลน์” คัดเลือกเหรียญ KUB มาให้บริการซื้อขาย ซึ่งเป็นความผิดตาม ม.94 ของ พ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัล ให้ปรับเงินรายละ 2,533,500 บาท และปรับบริษัท 2,533,500 บาทเช่นกัน และกำหนดค่าปรับรายวันจนกว่า BO จะปฏิบัติในเรื่องที่ฝ่าฝืนกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ ก.ล.ต.กังวลมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ

พูดง่ายๆ ว่า บิทคับ ทำธุรกิจแหกธรรมาภิบาลตั้งแต่เริ่มแรก และมีข้อสงสัยมาเรื่อยๆ ข้อพิสูจน์นี้เพิ่งทำให้ ก.ล.ต. ลงโทษบิทคับ สั่งปรับผู้บริหาร Bitkub เป็นจำนวนเงินกว่า 15.2 ล้านบาท จากกรณีลิสต์เหรียญ KUB บนกระดาน Bitkub ไม่เป็นไปตาม Listing Rule ของ ก.ล.ต. และไม่คำนึงถึงความขัดแย้งทางผลประโยชน์

นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่า KUB ของบิทคับ มีความขัดแย้งผลประโยชน์ เจ้าของเหรียญ ร่วมมือกับพันธมิตร หรือมาร์เกตเมกเกอร์ กระทำการอะไรกับ KUB บ้าง ก.ล.ต.ย่อมมีหน้าที่ต้องตรวจสอบ เพราะพฤติกรรมของราคา KUB ชวนให้ตั้งข้อสังเกตว่าถูกควบคุม ถูกปั่น สร้างราคา และใช้ข้อมูลภายในซื้อขายโกยกำไรจากรายย่อยที่ไม่รู้ทัน ลากราคาขึ้นไปสูงๆ ด้วยการโยนกันระหว่างมาร์เกตเมกเกอร์หลอกให้นักลงทุนหลงเชื่อซื้อตามก่อนจะเทขายโกงกำไรไปกี่รอบต่อกี่รอบ ใช่หรือไม่?

เหล่านี้ ก.ล.ต. ควรตรวจสอบประกาศให้สาธารณะรับทราบ ซึ่งว่ากันว่าก่อนที่ ก.ล.ต.จะลงดาบผู้บริหารบิทคับกรณีจดทะเบียน KUB ในตลาดตัวเอง เมื่อต้นเดือน พ.ค.2565 ปรากฏมีมือดีรู้ข่าวภายในว่า ก.ล.ต.จะสั่งปรับ เทขาย KUB โดยใช้ข้อมูลอินไซต์ ผลก็คือ ราคา KUB ร่วงไป 30% ในวันต่อมา

นอกจากนี้ เคยมีข่าวลือว่าในช่วงก่อนที่ Bitkub จะเผาเหรียญ KUB จาก 1 พันล้านเหรียญตามที่ออกมาในครั้งแรกให้เหลือ 110 ล้านเหรียญนั้น มีผู้กุมอำนาจใหญ่และถือเหรียญ KUB เป็นจำนวนมากหลายรายรู้ถึงแผนดังกล่าว จึงเทขายเหรียญที่ถืออยู่ออกมาจำนวนมากเพื่อทำกำไรก่อนที่จะทำการเผาเหรียญเพื่อเร่งให้มูลค่าของเหรียญปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งต่างหวังว่า ก.ล.ต.จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้มีความโปร่งใสและยุติธรรมมากขึ้น

กลยุทธ์จับรายใหญ่พยุงราคาเหรียญ KUB

จากประเด็นที่ Bitkub ได้รับประกันการราคาซื้อเหรียญ KUB จากพันธมิตรรายใหญ่ทั้ง 2 ราย ได้แก่ PROEN จำนวน 250,000 เหรียญ ในราคาเหรียญละ 291 บาท การันตีรับซื้อคืนไม่ต่ำกว่าราคาทุน และ TVD จำนวน 125,000 เหรียญ การันตีรับซื้อคืนจำนวน 15,000 เหรียญ ราคาไม่ต่ำกว่า 90 บาท นอกจากการเอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยแล้ว นับเป็นกลยุทธ์เพื่อใช้ในการพยุงราคาเหรียญไม่ให้ตกต่ำ เพราะพันธมิตรเหล่านี้ต้องถือในระยะยาว มีกำหนดระยะเวลาถึงจะสามารถขายเหรียญออกมาได้ และมีการตั้งข้อสังเกตว่า นอกจากพันธมิตรทั้ง 2 รายนี้แล้ว ยังมีพันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ อีกหรือไม่ที่เข้ามาลงทุน KUB จำนวนมาก และมีเงื่อนไขรับประกันราคาซื้อคืนในลักษณะเดียวกันนี้

ธรรมาภิบาลแบบนี้ SCBX ยังจะซื้อหรือ?

ท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งบิทคับ มักจะอธิบายเหตุที่ KUB ราคาร่วงหนักว่า เป็นไปตามกระแสของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีสกุลใหญ่ โดยเฉพาะ “บิตคอยน์” ปรับตัวลดลงหนักจากที่เคยพุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และเขายังเชื่อมั่นว่า ดีล 1.78 หมื่นล้าน ระหว่างบิทคับ กับ เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) ของธนาคารไทยพาณิชย์ ยังเดินหน้าต่อไป แต่ฟากของ SCBX กลับเริ่มมองถึงการต่อรองราคา และอาจจะล้มดีล หากการทำดีลดิจิเจนท์ ออกมาไม่คุ้มค่า

คำถามก็คือ พฤติการณ์ช่วงโปรโมชัน KUB ราคาดิ่งเหว ช่วยเหลือพันธมิตรด้วยการอุ้มสมประกันราคา โดยที่มีมาตรฐานไม่เท่ากันกับรายย่อยที่อยู่บนดอยสูงของเจ้าของเหรียญ KUB เพื่อดันราคาของ KUB (ดูอินโฟกราฟิก) ให้สูงขึ้น เพื่อมิให้มูลค่าของตลาดซื้อขายคริปโตฯ ของบิทคับดูราคาต่ำไปด้วย เพียงเพื่อให้ SCBX ไม่ทิ้งดีล...ธรรมาภิบาลแบบนี้ ไทยพาณิชย์ยังสนใจจะลงทุนอีกหรือ?


อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 1 >>> ดีล SCBX ฮุบ Bitkub เริ่มเสี่ยง ได้ไม่คุ้มเสีย? (ตอนที่ 1)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 2 >>> KUBCOIN เจ้ามือรวย แมลงเม่าม้วยมรณา (ตอนที่ 2)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 3 >>> Bitkub ยูนิคอร์น สายพันธุ์อันตราย?! (ตอนที่ 3)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 4 >>> ลัทธิ Bitkub ตัวป่วนวงการ! สวน “ธปท.-ก.ล.ต.” คุมเข้ม (ตอนที่ 4)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 5 >>> บิทคับ เทียบ ไบแนนซ์ ค่าต๋งแพง-ค่าถอนโหด กับดักแมลงเม่า (ตอนที่ 5)

อ่านเพิ่มเติมตอนพิเศษ >>> แฉบิทคับเดินสายล้างสมองเยาวชน ผู้บริหาร SCBX พยายามปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ (ตอนพิเศษ)

อ่านเพิ่มเติม>>> “SCBX-Bitkub” ส่อแววดีล ล่ม-เลื่อน

อ่านเพิ่มเติม >>> ราคาเหรียญ KUBCoin ร่วงเหวกว่า -70% จากจุดสูงสุดที่ 580 บาท

อ่านเพิ่มเติม >>> ก.ล.ต.ลงดาบปรับ Bitkub และบอร์ดอ่วม 15 ล้านบาท เหตุคัดเลือกเหรียญ KUB เข้ากระดานเทรดไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์

อ่านเพิ่มเติม>>> Bitkub ประกาศเดินหน้าเทรดเหรียญ Bitkub Coin ในกระดานต่อ ชี้เป็นเหรียญมีคุณสมบัติตาม Listing Rule

อ่านเพิ่มเติม >>> 10 บาทก็เล่นได้ เดินสายบิ้วเยาวชน ถึงคราว "บิทคับ" จะซื้อ "เมืองทอง"

อ่านเพิ่มเติม >>> ลือกันสะพัด ท๊อป บิทคับ ไม่ได้ใช้เงินสดสนับสนุนสมาคมบอลนะจ๊ะ หากแต่เป็นคับคอยน์ที่กำลังดิ่งสุดๆ นักเตะไทยใจสู้ๆ อย่าแผ่วตามเหรียญไปซะล่ะ

อ่านเพิ่มเติม >>> ระวัง KUBCOIN สิ้นค่าซ้ำรอย LUNA (1)

อ่านเพิ่มเติม >>> ระวัง KUBCOIN สิ้นค่าซ้ำรอย LUNA (จบ)

อ่านเพิ่มเติม >>> SCBX ยังไม่ตัดสินใจซื้อ "บิทคับ" รอ "ดีลดิลิเจนท์" ต่อรองราคา มิ.ย.นี้ ก่อนจะประกาศ "ไปต่อหรือล้มดีล"


กำลังโหลดความคิดเห็น