xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยรีบาวนด์กลับมา +5.85 จุด ตามตลาดหุ้นโลก หลังผลงบหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ โตดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยรีบาวนด์ +5.85 จุด โบรกฯ ชี้แรงซื้อหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี-ท่องเที่ยวหนุน แนะจับตาจีดีพีสหรัฐฯ คืนนี้ หลังผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีฝั่งสหรัฐฯ ออกมาดี ประเมินแนวโน้มกรอบการลงทุนพรุ่งนี้ยังแกว่งตัวไซด์เวย์ ประเมินแนวรับ 1,660 จุด และแนวต้าน 1,680 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 28 เมษายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.85 จุด หรือ +0.35% โดยปิดตลาดที่ 1,667.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 79,291.84 ล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,667.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.85 จุด (+0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 79,291.84 ล้านบาท โดยภาพรวมดัชนีหุ้นไทยในวันนี้ฟื้นตัวรีบาวนด์กลับขึ้นมาจากเมื่อวาน ซึ่งเป็นไปตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,669.04 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,658.47 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 988 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 540 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 687 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +2,676.51 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +776.44 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,109.30 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -343.64 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,489.71 ล้านบาท ปิดที่ 112.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,331.42 ล้านบาท ปิดที่ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,783.92 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,457.32 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
5.TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,331.17 ล้านบาท ปิดที่ 55.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TOP ปิดที่ 55.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 4.21%
2.KBANK ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ1.32%
3.IVL ปิดที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.45%
4.PTTGC ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.63%
5.KCE ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.06%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TIDLOR (XD) ปิดที่ 35.75 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ 7.14%
2.KKP (XD) ปิดที่ 72.25 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 3.02%
3.SCB ปิดที่ 112.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.32%
4.AOT ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.47%
5.DOHOME ปิดที่ 20.20 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 3.35%
 
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,249.37 จุด เพิ่มขึ้น 11.89 จุด หรือ 0.53% ดัชนี SET50 ปิดที่ 983.54 จุด เพิ่มขึ้น 4.78 จุด หรือ 0.49% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 669.39 จุด เพิ่มขึ้น 2.03 จุด หรือ 0.30 %

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวนด์ตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยได้สัญญาณเชิงบวกจากปัจจัยภายนอกประเทศ หลังนักลงทุนตอบรับปัจจัยลบเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปพอสมควรแล้ว อีกทั้งผลประกอบการของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ออกมาดี ทำให้ Sentiment ภาพรวมกลับมาดีขึ้น

นอกจากนี้ แนะนำติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการกลุ่มเรียลเซกเตอร์ (Real Sectors) และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยคืนนี้จะมีการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/65 (ประมาณการเบื้องต้น) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มี.ค.ในคืนวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขชุดสุดท้ายที่มีผลต่อการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงินของการประชุมเฟดรอบนี้

ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีน่าจะแกว่งไซด์เวย์ระหว่างรอความชัดเจนจากการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า ขณะที่ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 2 พ.ค. ชดเชยวันแรงงานแห่งชาติ ให้กรอบแนวรับ 1,660 จุด และแนวต้าน 1,680 จุด

ส่วนนายจารุชาติ บูชาชาติ นักกลยุทธ์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า แนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้คาดว่าตลาดแกว่งไซด์เวย์ ด้านกลยุทธ์การลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นระหว่างรอผลประชุมเฟด เน้นหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 1/65 เติบโต เช่น BANPU แนวรับที่ 11.90 บาท แนวต้านที่ 12.80 บาท ICHI แนวรับที่ 12 บาท แนวต้านที่ 12.80 บาท III แนวรับที่ 14.60 บาท แนวต้านที่ 15.30 บาทประเมินกรอบแนวรับแรกที่ 1,664 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,655 จุด แนวต้านแรกที่ 1,680 จุด และแนวต้านต่อไปที่ 1,673 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น