หุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.04 จุด โบรกฯ ชี้แรงหนุนมาจากมาตรการผ่อนคลายโควิดหนุนการท่องเที่ยว แนะจับตาผลการประชุมเฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค. พร้อมประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวต้านที่ 1,690-1,700 จุด และแนวรับที่ 1,668 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 22 เมษายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.04 จุด หรือ +0.00% โดยปิดตลาดที่ 1,690.59 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 71,018.65 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นไทยในวันนี้ ดัชนี SET INDEX ปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน และท้ายตลาดพลิกมาบวกเล็กน้อย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,690.59 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,680.86 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 583 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 566 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,053 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -928.16 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 484.41 ล้านบาท บัญชี บล.ซื้อสุทธิกว่า 113.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 330.16 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.EA มูลค่าการซื้อขาย 5,704.36 ล้านบาท ปิดที่ 91.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
2.KTB มูลค่าการซื้อขาย 3,484.23 ล้านบาท ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,801.38 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,713.68 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,674.04 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่ 109.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.87%
2.SINGER ปิดที่ 58.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 3.11%
3.CENTEL ปิดที่ 43.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.99%
4.KTB ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 9.16%
5.CL ปิดที่ 45.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.69%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCBB ปิดที่ 83.25 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.92%
2.BBL (XD) ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.85%
3.PTTEP ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.35%
4.KKP ปิดที่ 74.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.32%
5.KBANK ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.65%
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,272.66 จุด ลดลง -4.04 จุด หรือ -0.18% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 995.80 จุด ลดลง -2.57 จุด หรือ -0.26% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 688.90 จุด ลดลง -0.60 จุด หรือ -0.09%
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ก่อนพลิกกลับมาเป็นบวกเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาด โดยได้รับแรงกดดันหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค.
แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นบ้านเรามีปัจจัยบวกจากในประเทศ หลังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ชุดใหญ่) มีมติยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go ที่ต้องตรวจ RT-PCR โดยปรับให้ใช้เพียงการตรวจ ATK เท่านั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเปิดรองรับการท่องเที่ยว ทำให้หนุนต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล และ ICT ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ปรับตัวลงราว 0.3-1%
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า คาดว่า ตลาดน่าจะแกว่งไซด์เวย์อยู่ในกรอบจำกัด เพื่อรอดูการประชุมเฟดในต้นเดือน พ.ค. โดยนักลงทุนน่าจะเก็งกำไรในหุ้นรายตัว ให้กรอบแนวต้าน 1,690-1,700 จุด และแนวรับ 1,668 จุด