หุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวร่วง - 6.36 จุด โบรก ฯ ชี้ เงินบาทอ่อนค่ารุนแรงหลุด 34 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ กระทบส่งออก-นำเข้า หนำซ้ำเฟดยังคงปรับทิศนโยบายการเงินเร็ว-แรง แนะจับตาดัชนี ฯ SET INDEX พรุ่งนี้คาดยังคงแกว่งตัวไซด์เวย์ พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,665-1,670 จุด และแนวต้านที่ 1,685-1,690 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 26 เมษายน 2565 ปรับตัวลดลง - 6.36 จุด หรือ -0.38% โดยปิดตลาดที่ 1,668.97 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 81,575.17 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกก่อนที่จะปรับตัวลดลงและแกว่งตัวในแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,685.42 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,668.76 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 609 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 544 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,299 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,685.90 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +634.32 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +246.84 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,567.06 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.FORTH มูลค่าการซื้อขาย 2,682.89 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง 9.75 บาท
2.KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,370.87 ล้านบาท ปิดที่ 14.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,236.59 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
4.JUTHA มูลค่าการซื้อขาย 2,150.74 ล้านบาท ปิดที่ 1.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,125.66 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMT ปิดที่ 84.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 3.35%
2.BH ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.82%
3.MINT ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 4.35%
4.BANK ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 0.99%
5.MEGA ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.04%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.GPSC ปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 2.25 บาทหรือ 3.27%
2.SCBB ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 2.74%
3.EA ปิดที่ 87.75 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 2.23%
4.EGCO ปิดที่ 167.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 1.18%
5.RCL ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 2.25%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,243.07 จุด ลดลง -4.62 จุด หรือ -0.21% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 981.16 จุด ลดลง -1.91 จุด หรือ -0.19% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 670.34 จุด ลดลง -14.91 จุด หรือ -2.18%
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กสปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีแกว่งตัวค่อนข้างผันผวน หลังจากช่วงต้นภาคเช้ารีบาวด์ในมาแดนบวก แต่หลังจากนั้นแกว่งตัวลงมา ปัจจัยหลักมาจากเงินบาทอ่อนค่าเร็วมาก และยังมีความกังวลการเร่งขึ้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการถอดสภาพคล่องออกจากระบบ ประกอบกับวันนี้มีแรงขายหุ้นขนาดเล็กออกมากดดันดัชนีในวันนี้ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
ขณะที่แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา โดยนักลงทุนยังคงรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยออกมา ซึ่งจะมีผลต่อมุมมองและการปรับประมาณการของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และมีผลต่อภาพรวมของตลาดหุ้น โดยประเมิน แนวรับที่ 1,665-1,670 จุด และแนวต้านที่ 1,685-1,690 จุด