xs
xsm
sm
md
lg

Twitter ยังไม่สุด!! Elon Musk เล็งซื้อ Coca-Cola หวังคืน "โคคา" สมุนไพรในน้ำอัดลมสูตรดั้งเดิม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลิ่นข่าวการเทเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ซื้อกิจการ Twitter ยังไม่จางหาย ล่าสุด Elon Musk ทวีตเมื่อวันพุธว่าเขาต้องการซื้อบริษัท Coca-Cola เพื่อ "ใส่โคคา" ซึ่งเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายคล้ายกัญชง กัญชา ที่ประกอบไปด้วยสารกระตุ้นประสาทให้รู้สึกสดชื่น และผู้ดื่มมีความสุข โดยจุดประสงค์ของการซื้อ Coca-Cola คือ การย้อนกลับไปเป็นส่วนผสมของกระบวนการผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมสูตรดั้งเดิม

จากการเปิดเผยของ businessinsider ระบุถึงโพสต์ของ Musk เกิดขึ้น 2 วันหลังจากมหาเศรษฐีซื้อ Twitter ในข้อตกลงมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์ "มาทำให้ Twitter เป็นเรื่องสนุกกันเถอะ!" เขาทวีตน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงหลังจากประกาศแผนการของเขาสำหรับบริษัทเครื่องดื่ม แม้ว่าความคิดเห็นของ Musk เกี่ยวกับ Coca-Cola นั้นน่าจะในลักษณะแสลงที่มีความหยาบคาย ไม่สุภาพ ทีเล่นทีจริง แต่ก็ยอมรับความจริงทางประวัติศาสตร์บางประการ

ตามรายงานของสถาบันยาเสพติดแห่งชาติ โคเคนถูกกฎหมายในปี 1885 เมื่อจอห์น เพมเบอร์ตัน เภสัชกรจากแอตแลนตาผลิตเครื่องดื่มดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยในขณะนั้นสูตรของเพมเบอร์ตัน ได้รวมสารสกัดโคเคนที่ได้จากใบโคคา เขาอธิบายว่าเครื่องดื่มนั้นเป็น "ยารักษา" ซึ่งเขาได้จดสิทธิบัตร และยังให้คำจำกัดความว่ามันคือ "ยาบำรุงสมองและเครื่องดื่มทางปัญญา"

อย่างไรก็ตาม บทความของ New York Times ในปี 1988 เกี่ยวกับ The Coca-Cola Company ยังรายงานว่า โคเคนถูกรวมไว้ในเครื่องดื่มในขั้นต้นอย่างไร แต่กำจัดโคเคนให้หมดภายในช่วงทศวรรษ 1900

ในขณะเดียวกัน ตัวแทนของ The Coca-Cola Company ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นจาก Insider ทันที นอกจากนี้ ทวีตของ Musk เกี่ยวกับ Coca-Cola ซึ่งถูกแชร์ต่อกันออกไป ได้รับการตอบสนองจากตัวแทน Lauren Boebert ผู้ซึ่งใช้ยาเสพติดที่มีเอกสารของ Hunter Biden โดยตอบกลับในลักษณะแซวว่า “ฮันเตอร์ขอความกรุณาจากคุณหรือเปล่า” เธอเขียน

นับตั้งแต่ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Twitter ของ Musk ผู้ใช้แพลตฟอร์มจำนวนมากได้ทวีตคำแนะนำเกี่ยวกับบริษัทที่เขาควรซื้อต่อไป ซึ่งผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งเขียนว่า Musk ควร "ซื้อ Fox" เพื่อให้ซีรีส์ทีวีเรื่อง "Firefly" เป็นสีเขียวอีกครั้ง ซึ่ง Musk ตอบว่า "นิยายวิทยาศาสตร์บางเรื่องที่มีนิยายวิทยาศาสตร์จริงๆ จะดีมาก"

ขณะที่ผู้ใช้ Twitter อีกคนเขียนว่า "@elonmusk ควรซื้อช่อง History Channel และสร้างมันขึ้นมาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์" ซึ่ง Musk ตอบกลับด้วยอีโมจิหัวเราะคิกคัก

ทั้งนี้ Twitter ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในจำนวนผู้ใช้นับตั้งแต่การซื้อกิจการ โดยบัญชีที่เอนเอียงไปทางซ้ายทางการเมืองสูญเสียผู้ติดตามหลายพันคนและผู้ใช้ฝ่ายขวาได้รับพวกเขาเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปดูประวัติการแสดงออกของ Elon Musk ต่อสาธารณชน จัดได้ว่าเป็นนักธุรกิจที่สุดโต่งคนหนึ่ง โดยเขาเคยตอบข้อซักถามแฟนคลับขณะที่ไลฟ์สดสตรีมและผ่านรายการวิทยุไปพร้อมๆ กัน โดยได้สูบกัญชาในขณะที่กำลังจัดรายการอยู่ด้วย

ในขณะเดียวกัน ในห้องค้าหลักทรัพย์มีการจับกลุ่มพูดคุยกันของนักลงทุนอย่างเผ็ดร้อน ถึงศักยภาพทางการเงินของ Elon Musk ที่สามารถเข้ามาซื้อกิจการบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยได้หลายสิบบริษัท ทั้งใน SET และ mai ซึ่งมีหลายบริษัทที่ผลิตเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมเทอร์ปีน ซึ่งเป็นสารสกัดจากกัญชง กัญชา โดยมีสารออกฤทธิ์แบบเดียวกับโคคา ที่นำมาสกัดเป็นโคเคน 

หมายเหตุ : โคคาเป็นพืชที่ปลูกในตระกูล Erythroxylaceae ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ตะวันตก โคคาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องสารอัลคาลอยด์ที่ออกฤทธิ์ทางจิต ซึ่งผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสกัดจนกลายเป็นโคเคน

โดย โคคา จัดเป็นพืชเศรษฐกิจในอาร์เจนตินาตะวันตกเฉียงเหนือ โบลิเวีย ดินแดนอัลโตริโอเนโกรในบราซิล โคลอมเบีย เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ และเปรู แม้แต่ในพื้นที่ที่การเพาะปลูกไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีรายงานบางฉบับว่า โรงงานกำลังปลูกพืชในเม็กซิโกตอนใต้เพื่อทดแทนการลักลอบนำเข้าโคเคนเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในวัฒนธรรม Andean ดั้งเดิมมากมายเช่นเดียวกับ Sierra Nevada de Santa Marta

ขณะที่ปริมาณโคเคนอัลคาลอยด์ของ Erythroxylum coca var. ใบโคคาวัดได้ตั้งแต่ 0.23% ถึง 0.96% โดยในยุคแรกของเครื่องดื่ม Coca-Cola ใช้สารสกัดจากใบโคคาในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2428 จนถึงประมาณ พ.ศ.2446 และเริ่มใช้สารสกัดจากใบโคคาไนซ์นับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งการสกัดโคเคนจากโคคาต้องใช้ตัวทำละลายหลายชนิดและกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่าการสกัดด้วยกรด-เบส ซึ่งสามารถสกัดอัลคาลอยด์ออกจากพืชได้ค่อนข้างง่าย ซึ่งจากนำใบโคคา มาสกัดเป็นโคเคน ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในยาเสพติดต้องห้ามตามกฎหมายในหลายประเทศ เว้นแต่เพื่อการวิจัยและรักษาพยาบาลโดยแพทย์เท่านั้น ทำให้โคเคนกลายเป็นสารต้องห้ามตามกฎหมายไปโดยปริยาย


กำลังโหลดความคิดเห็น