รัสเซียเริ่มทดสอบรูเบิลดิจิทัลแล้ว แบงก์ชาติลั่นดันโปรเจกต์ CBDC เดินหน้าตามแผน เตรียมพร้อมสำหรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนในโลกจริงภายในปีนี้
จากรายงานของไทมส์ ออฟ อินเดีย ธนาคารกลางรัสเซียได้ดำเนินการทดสอบสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ขั้นตอนแรกแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาโดยโฟกัสที่การชำระเงินระหว่างลูกค้ากับลูกค้า (C2C)
แบงก์ชาติรัสเซียเริ่มโครงการนำร่องทดสอบเงินรูเบิลดิจิทัลเมื่อต้นปี ต่อมาในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ได้ประกาศความสำเร็จครั้งแรกในการทำธุรกรรมระหว่างวอลเล็ต โดยมีสถาบันการเงินของรัสเซียอย่างน้อย 12 แห่งเข้าร่วมการทดสอบ ที่คาดว่าจะดำเนินการต่อเนื่องตลอดปีนี้
แถลงการณ์อย่างเป็นทางการของแบงก์ชาติรัสเซียยังเปิดเผยว่า จะไม่ชะลอการสร้าง CBDC
โอลกา สโกโรโบกาโตวา รองผู้ว่าการอันดับ 1 ของธนาคารกลางรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับพอร์ทัลข่าวธุรกิจ RBC เมื่อเร็วๆ นี้ว่า เงินรูเบิลดิจิทัลมีความสำคัญจำเป็นอย่างยิ่ง และแบงก์ชาติจะไม่เลื่อนการทดสอบแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลต้นแบบ แม้ว่าธนาคารพาณิชย์บางแห่งที่ได้รับเชิญเข้าร่วมโปรเจกต์อาจยังไม่พร้อมทางเทคนิคก็ตาม
เธอยังบอกว่า ถ้าแบงก์ชาติตัดสินใจอย่างทันท่วงที และลงมืออย่างรวดเร็วทั้งด้านการทดสอบและการแก้ไขกฎหมาย โครงการ CBDC ของรัสเซียจะลุล่วงภายในปีหน้า
ตามการเปิดเผยของสโกโรโบกาโตวา นั้น เฟส 2 ของโปรเจกต์นี้จะเริ่มต้นในฤดูใบไม้ร่วง โดยธนาคารกลางรัสเซียมีแผนเริ่มดำเนินการทดสอบการจ่ายค่าสินค้าและบริการด้วยเงินรูเบิลดิจิทัล รวมทั้งการโอนเงินระหว่างรัฐบาลกับกระทรวงการคลัง นอกจากนั้นแบงก์ชาติจะร่วมมือกับกระทรวงการคลังออกสัญญาอัจฉริยะ
ก่อนหน้านี้ เอลวิรา นาบิลลินา ผู้ว่าการแบงก์ชาติรัสเซีย ระบุว่า กระทรวงการคลังได้วางโครงสร้างต้นแบบ และขณะนี้เตรียมเริ่มต้นดำเนินการกับสถาบันการเงินต่างๆ ก่อนเริ่มโครงการนำร่องธุรกรรมในปีหน้า
เงินรูเบิลดิจิทัลถือเป็นการอวตารครั้งที่ 3 ของเงินเฟียตของรัสเซีย หลังจากเงินกระดาษและเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยคนรัสเซียจะสามารถใช้รูเบิลดิจิทัลได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และแบงก์ชาติรัสเซียเชื่อว่า CBDC จะสร้างโอกาสใหม่สำหรับประชาชน ธุรกิจ และรัฐบาล
เดือนที่แล้วยังมีการพูดเรื่องการทำให้รูเบิลดิจิทัลเป็นทุนสำรองเพื่อให้รัสเซียสามารถลดการพึ่งพิงดอลลาร์ ขณะที่ทุนสำรองที่อยู่ในประเทศต่างๆ ถูกอายัด
ขณะเดียวกัน ภายในมอสโกขณะนี้มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้ใช้คริปโตฯ เป็นช่องทางหลีกเลี่ยงข้อจำกัดและการระดมทุนสำหรับการค้าระหว่างประเทศ หลังจากที่รัสเซียถูกแบนไม่ให้เข้าถึงระบบการเงินโลกนับจากที่เปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และอเมริกายังขยายมาตรการแซงก์ชันครอบคลุมบุคคล และนิติบุคคลจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย ซึ่งรวมถึงบิตริเวอร์ บริษัทขุดบิตคอยน์ในรัสเซีย อีกทั้งคาดได้ว่า ตะวันตกจะยังไม่ยุติการออกมาตรการแซงก์ชันมอสโกง่ายๆ
มอสโกยังตอบโต้มาตรการแซงก์ชันของตะวันตกด้วยการเริ่มขยายโครงการชำระเงิน MIR ของตนเองที่ถูกคาดหวังว่าจะมาแทนที่ระบบการชำระเงินของวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด หลังจากทั้ง 2 บริษัทระงับการดำเนินการในรัสเซีย
รายงานยังระบุว่า รัสเซียกำลังพิจารณายอมรับการชำระเงินด้วยคริปโตฯ จากประเทศที่เป็นมิตร ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ต้องการทำธุรกิจกับรัสเซียต้องจ่ายด้วยรูเบิล
นอกจากนี้ สเบอร์แบงก์ที่เป็นแบงก์ใหญ่สุดของรัสเซีย จะเริ่มออกและเทรดสินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัลในอนาคตอันใกล้มาก หลังจากได้รับอนุมัติจากแบงก์ชาติเป็นที่เรียบร้อย