รัฐบาลรัสเซียเร่งเร้า BRICS กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งมีศักยภาพสูงที่จะเติบโตขึ้นมาทัดเทียมกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ยกระดับการใช้สกุลเงินของแต่ะละประเทศ สำหรับปฏิบัติการนำเข้าและส่งออก รวมถึงระบบชำระเงินแบบบูรณาการ
ตามหลังรัสเซียรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ มอสโกถูกตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งตัดขาดพวกเขาออกจากระบบการเงินโลก รวมถึงอายัดทองคำและทุนสำรองระหว่างประเทศของพวกเขาเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่ราวๆ 606,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงต้นเดือนเมษายน
ขณะเดียวกัน วีซ่าและมาสเตอร์การ์ด บัตรชำระเงินระหว่างประเทศได้ระงับให้บริการในรัสเซียในช่วงต้นเดือนมีนาคม ส่วนธนาคารรายใหญ่ของรัสเซียก็ถูกตัดขาดจากระบบ SWIFT เครือข่ายการเงินระดับโลกที่ช่วยให้การโอนเงินข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
อันทอน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซียบอกกับที่ประชุมระดับรัฐมตรีของกลุ่ม BRICS เมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเลวร้ายลงอย่างมาก สืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ นอกจากนี้ มาตรการลงโทษเหล่านั้นยังทำลายรากฐานระบบการคลังและการเงินโลกที่มีอยู่ในปัจจุบัน บนพื้นฐานของดอลลาร์สหรัฐ
"เหล่านี้มันผลักให้เราจำเป็นต้องดำเนินการในขอบเขตต่างๆ ดังต่อไปนี้ ใช้สกุลเงินประเทศสำหรับปฏิบัติการนำเข้าและส่งออก บูรณาการระบบชำระเงินและบัตรต่างๆ ระบบการโอนเงินระหว่างประเทศของตัวเองและจัดตั้งสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อของ BRICS ที่เป็นอิสระ"
รัสเซีย ได้จัดตั้งระบบการโอนเงินระหว่างประเทศของตัวเองที่เรียกว่า SPFS เป็นทางเลือกแทน SWIFT ขณะที่ระบบบัตรเครดิตสำหรับการชำระเงิน MIR เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2015
มาตรการต่างๆ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมอสโกในการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือทางการเงินท้องถิ่นแบบเดียวกับที่ตะวันตกมี เพื่อปกป้องประเทศในกรณีที่มาตรการคว่ำบาตรลงโทษมอสโกถูกยกระดับขึ้น
รัฐมนตรีคลังรัสเซียระบุว่า บรรดารัฐมนตรีของกลุ่ม BRICS ยืนยันถึงความสำคัญของความร่วมมือในความพยายามสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจในปัจจุบัน
ในวันศุกร์ (8 เม.ย.) ธนาคารกลางรัสเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 20% เหลือ 17% ความเคลื่อนไหวอันน่าประหลาดใจ ก่อนมีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินตามวาระในวันที่ 29 เมษายน และบอกว่าพวกเขาเปิดทางสำหรับโอกาสปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อๆ ไปที่จะมาถึง
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางรัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน จากเดิม 9.5% เป็น 20% สูงที่สุดในรอบ 20 ปี หลังค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าสุดเป็นประวัติศาสตร์ สืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น หลังจากรุกรานยูเครน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของธนาคารกลางรัสเซีย มีขึ้นหลังจาก ซิลูอานอฟ บอกเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า กระทรวงการคลังของเขากำลังทำงานร่วมกับธนาคารกลาง ในมาตรการต่างๆ เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนของรูเบิลคาดคะเนได้ง่ายขึ้นและผันผวนน้อยลง
(ที่มา : อัลจาซีเราะห์)
