xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ อ้างรัสเซีย 'จนตรอก' สั่งจ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิล แต่ส่งทูตกดดันทั่วโลกหลังคว่ำบาตรส่อไม่ระคายผิวมอสโก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงการต่างประเทศอเมริกาชี้ว่าข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ขอให้พวกผู้ซื้อต่างชาติจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติเป็นสกุลเงินรูเบิลเป็นสัญญาณแห่งความสิ้นหวังทางเศรษฐกิจและการเงิน ผลจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน แต่ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ กลับส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปกดดันผู้นำทั่วโลกในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางสัญญาณว่าคลื่นความช็อกทางเศรษฐกิจของรัสเซีย อันเนื่องมาจากมาตรการคว่ำบาตร ดูเหมือนกำลังลดน้อยถอยลง

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) ว่า พวกประเทศ “ไม่เป็นมิตร” ซึ่งรวมถึงชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมดด้วยนั้น จำเป็นจะต้องเปิดบัญชีสกุลเงินรูเบิลสำหรับจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติที่แดนหมีขาวส่งให้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป

บรรดาประเทศยุโรป ในนั้นบางส่วนพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นอย่างมาก ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว และรัฐบาลเยอรมนีระบุว่า มันเทียบเท่ากับเป็นการแบล็กเมล์

เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) "ผมคิดว่าพื้นฐานของเรื่องนี้คือ มันเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของสถานการณ์เลวร้ายที่เศรษฐกิจของรัสเซียกำลังเผชิญอยู่" ไพรซ์บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวัน และบอกว่ามันขึ้นอยู่กับบรรดาชาติยุโรปที่จะตัดสินใจแนวทางตอบโต้ของพวกเขา

ไพรซ์กล่าวว่า "มาตรการคว่ำบาตรต่างๆ การควบคุมการส่งออกและมาตรการทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่กำหนดตอบโต้การรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพัธ์ ได้ส่งผลกระทบใหญ่หลวง อย่างเป็นรูปธรรมและถ้วนทั่ว และนำมาซึ่งความสิ้นหวังทางเศรษฐกิจและทางการเงิน ในส่วนของรัสเซีย"

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวอีกด้านหนึ่งของรอยเตอร์ ระบุว่า ในสัปดาห์นี้สหรัฐฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปเร่งเร้าบรรดาผู้นำทั่วโลกให้เดินหน้ากดดันมอสโกหรือเข้าร่วมคว่ำบาตรและใช้มาตรการอื่นๆ ในขณะที่สงครามในยูเครนเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 แล้ว และคลื่นความช็อกทางเศรษฐกิจในเบื้องต้นที่เกิดขึ้นกับรัสเซียนั้นดูกำลังลดน้อยถอยลง

วัลลี อาเดเยโม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในลอนดอน บรัสเซลส์และปารีส และจะปิดท้ายสัปดาห์ด้วยเบอร์ลิน ส่วน ดาลีบ ซิงห์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เดินทางไปกดดันเจ้าหน้าที่อินเดียในนิวเดลี ส่วนแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ หารือสงครามยูเครนกับชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี ในโมร็อกโก

ความพยายามดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ผลกระทบในเบื้องต้นของมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมาต่อภาคธนาคารรัสเซีย เหล่าบุคคลทรงอิทธิพลทางธุรกิจและการเมือง และบริษัทต่างๆ เริ่มค่อยๆ จางหายไป และสหรัฐฯ กำลังพิจารณาก้าวย่างถัดไปทางเศรษฐกิจในการโดดเดี่ยวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย

ภายในไม่กี่วันหลังจากตัดสถาบันการเงินหลักๆ ของรัสเซียออกจาก SWIFT (เครือข่ายการเงินระดับโลกที่ช่วยให้การโอนเงินข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว) และอายัดเงินส่วนใหญ่ในเงินตราต่างประเทศทั้งหมด 630,000 ดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกลางรัสเซีย ค่าเงินของสกุลรูเบิลอ่อนค่าลงกว่าครึ่ง กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่อเมริกาออกมาประกาศว่ามอสโกกำลังต่อสู้กับวิกฤตทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม หนึ่งเดือนต่อมา รูเบิลฟื้นตัวขึ้นมาอย่างมาก สู่ระดับเกือบเท่ากับช่วงก่อนหน้ารัสเซียยกพลรุกรานยูเครน ส่วนหนึ่งจากมาตรการควบคุมเงินทุนของรัสเซีย รัฐบาลสั่งให้บรรดาบริษัทส่งออกขายเงินตราต่างประเทศ และบริษัทต่างๆ กำลังรวบรวมทุนเพื่อชำระภาษีสิ้นไตรมาส หุ้นในตลาดหุ้นของรัสเซียกลับมาซื้อขายกันอีกครั้ง แม้มูลค่าลดต่ำลงก็ตาม

ธนาคาร VTB VTBR.MM ของรัสเซีย ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมาตรการคว่ำบาตร ยังคงเปิดทำการในยุโรป ดินแดนที่พวกเขารวบรวมเงินหลายพันล้านยูโรปในรูปแบบของเงินฝาก ส่วนใหญ่จากผู้ฝากชาวเยอรมนี ส่วนธนาคารอื่นๆ ของรัสเซียกำลังพิจารณาใช้ระบบบัตรเครดิต UnionPay ของจีน หลังจาก Visa และ Mastercard ระงับให้บริการในรัสเซีย

จนถึงตอนนี้มาตรการคว่ำบาตรยังไม่แตะต้องสายเลี้ยงชีพทางเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของรัสเซีย นั่นคือการขายพลังงานป้อนยุโรป ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงสุดถึง 500 ล้านยูโรต่อวัน ณ ราคาปัจจุบัน นอกจากนี้ การที่รัสเซียต้องการให้จ่ายค่าพลังงานในรูปแบบสกุลรูเบิล เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (1 เม.ย.) เป็นต้นไป ยิ่งจะช่วยทำให้รูเบิลแข็งค่าขึ้น

เจ้าหน้าที่ระบุว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังหาทางสร้างความมั่นใจว่าพันธมิตรยุโรปจะเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างหนักแน่นในการลงโทษปูติน และหวังโน้มน้าวพวกผู้นำคนอื่นๆ ที่วางตัวอยู่วงนอก แม้สงครามจะขยายวงออกไปเรื่อยๆ

การเดินทางเยือนทั่วโลกของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจาก ไบเดน เพิ่งเดือนทางเยือนยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีขึ้นหลังจากรัสเซียและจีน ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น โดย หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนพบปะกับ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในวันพุธ (30 มี.ค.) และเน้นย้ำถึงแผนของปักกิ่งในการสานต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและส่งเสริมความร่วมมือที่มีต่อกัน

อาเดเยโม หารือกับเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการคลังของยุโรป เกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ผลกระทบของอินเดียและจีนในความพยายามหลบหลีกมาตรการคว่ำบาตรของรัสเซีย และแนวทางช่วยเหลือประเทศต่างๆ อย่างเช่นเยอรมนี สำหรับชดเชยความต้องการทางพลังงาน ในกรณีที่ห้ามนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย

ในอินเดีย ดาลีบ ซิงห์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติบอกกับพวกเจ้าหน้าที่ ว่าสหรัฐฯ จะไม่กำหนดเส้นตายใดๆ เกี่ยวกับการซื้อน้ำมัน แต่เตือนเกี่ยวกับการเร่งซื้อน้ำมันของรัสเซียอย่างรวดเร็ว

อินเดีย มีกองทัพที่พึ่งพิงเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ทางทหารของรัสเซียเป็นอย่างมาก และพยายามสร้างสมดุลในความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างรัสเซียกับตะวันตก ทั้งนี้ อินเดียไม่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย ผิดกับชาติสมาชิกอื่นๆ ของกลุ่ม Quad ซึ่งที่เหลือประกอบด้วยสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น