รูเบิล สกุลเงินแห่งชาติของรัสเซียแข็งค่าขึ้นอีกเมื่อเทียบกับยูโรและดอลลาร์สหรัฐในวันจันทร์ (18 เม.ย.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน เมื่อเทียบกับยูโร ตามข้อมูลการซื้อขายจากตลาดหลักทรัพย์มอสโก
การแข็งค่าของรูเบิล มีขึ้นแม้ว่าธนาคารกลางรัสเซียได้ดำเนินการผ่อนปรนมาตรการควบคุมเงินทุนไปแล้ว โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน ทางธนาคารกลางรัสเซียได้ยกเลิกคำสั่งห้ามซื้อเงินตราต่างประเทศด้วยสกุลเงินรูเบิลสำหรับบุคคล ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
จนถึงเวลา 11.35 จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 18.35 น.) ค่าเงินรูเบิลพุ่งขึ้น 4.14% สู่ระดับ 81.81 รูเบิลต่อยูโร และแข็งค่าขึ้น 1.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซื้อขายกันอยู่ที่ 79.1 รูเบิลต่อดอลลาร์
แม็กซิม ทิโมเชนโก หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการตลาดการเงินของรัสเซีย สแตนดาร์ด แบงก์ กล่าวว่า "สืบเนื่องจากมาตรการที่ใช้โดยธนาคารกลางรัสเซีย รูเบิลแทบจะไม่ตอบสนองต่อแรงกดดันภายนอก ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับการจ่ายภาษีของพวกผู้ส่งออกไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน สนับสนุนอัตราแลกเปลี่ยนของรูเบิลรัสเซีย"
ส่วน บอกดอน ซวาริช ผู้เชี่ยวชาญอีกคน หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ของแฟลตฟอร์มการเงิน Banki.ru ให้ความเห็นว่า ปัจจัยหลักที่สนับสนุนค่าเงินของรัสเซีย "อาจเป็นอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของพวกผู้ส่งออก ที่ต้องการมีสภาพคล่องรูเบิล ก่อนจ่ายภาษี"
รูเบิล ค่อยๆ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน ครั้งที่รัสเซียประกาศใช้กลไกใหม่สำหรับการชำระค่าก๊าซธรรมชาติส่งออกของพวกเขาด้วยสกุลเงินรูเบิล
ก่อนหน้านี้ ค่าเงินรูเบิลเคยดำดิ่งแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 151 รูเบิลต่อดอลลาร์ในวันที่ 7 มีนาคม หลังถูกเล่นงานโดยมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน ทว่านับตั้งแต่นั้นมันแข็งค่าคืนมาแล้วเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)