บริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 นำร่องกลุ่มนอนแบงก์ ปรากฏว่า กำไรทรุดลง และฉุดให้ราคาหุ้นทรุดฮวบลง
MTC แจ้งตลาดหลักทรัพย์หลังปิดการซื้อขายเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน โดยมีกำไรสุทธิ 1,201 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 139 ล้านบาท หรือลดลง 10.37% มีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าเกิดจากหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญ จำนวน 191 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 131 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 218.33%
หุ้น MTC ได้รับผลกระทบจากผลกำไรที่ลดลง ถูกเทขายตั้งแต่เปิดตลาดในวันที่ 10 พฤศจิกายน ก่อนจะปิดที่ราคา 61 บาท ลดลง 2.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,839.56 ล้านบาท
หุ้นกลุ่มนอนแบงก์กำลังตกอยู่ในสภาพเดียวกับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยหลังจากที่บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 นำร่อง โดยมีผลกำไรที่ลดลง ทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปักหัวลง
MTC ที่ประกาศผลประกอบการนำร่องโดยผลกำไรลดลง ทำให้ราคาหุ้นร่วงลง ฉุดให้หุ้นกลุ่มนอนแบงก์ปรับฐานลงเกือบทั้งแผง
สถานการณ์ “โควิด-19” ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มจนได้ โดย MTC เจอเข้าไปแล้ว ซึ่งกำไรที่ลดลงเกิดจากหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้น โดยหุ้นกลุ่มนอนแบงก์ตัวอื่นๆ คงเจอปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
ราคาหุ้น MTC ประคองตัวอยู่แถว 60 บาทมาหลายเดือนแล้ว แต่รอบนี้อาจหลุดต่ำกว่า 60 บาท เพราะปัญหานี้เสียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะบั่นทอนผลกำไร กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายลดความเสี่ยง
กลุ่มโรงไฟฟ้าฟุบไปหลายวันติดต่อ เพราะความกังวลผลประกอบการที่ทรุดลง ส่วนกลุ่มนอนแบงก์เพิ่งเริ่มต้นขาลง และอาจจะปรับฐานต่อเนื่อง หากผลประกอบการหุ้นนอนแบงก์ตัวอื่นที่จะทยอยประกาศตามมากำไรทรุดเหมือน MTC
หุ้นกลุ่มนอนแบงก์เริ่มปักหัวลงตั้งแต่ ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศโครงสร้างธุรกิจ และจะเข้ามาในธุรกิจนอนแบงก์เต็มตัว สร้างความสั่นสะเทือนให้บริษัทดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อรถ และจำนำทะเบียนรถ
นอกจากนั้น แบงก์ชาติยังมีนโยบายควบคุมดอกเบี้ยสินเชื่อธุรกิจนอนแบงก์ ซึ่งจะทำให้รายได้บริษัทนอนแบงก์ในตลาดหลักทรัพย์ลดลง ราคาหุ้นจึงปรับตัวลงต่อเนื่อง
หุ้นบริษัท MTC หุ้นบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD หุ้นบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC หุ้นบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR และหุ้นบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS กอดคอกันร่วงมาตลอด
แม้ราคาหุ้นกลุ่มนอนแบงก์จะลงมาลึก แต่นักลงทุนไม่กล้าผลีผลามเข้าช้อน เพราะประเมินสถานการณ์กลุ่มนอนแบงก์แล้วระยะสั้นยังมีผลความเสี่ยงจากผลกระทบโควิด-19 การถูกควบคุมอย่างเข้มงวดทั้งเพดานดอกเบี้ยการปล่อยกู้และค่าธรรมเนียม
และการแข่งขันที่มีแนวโน้มดุเดือดรุนแรงขึ้น
MTC ที่ถอยลงมาตั้งหลักที่ 61 บาท อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยมีค่าพี/อี เรโช 24 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 0.61% ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง
เพียงแต่อนาคตจากนี้ไป กลุ่มนอนแบงก์อาจไม่ใช่หุ้นดาวรุ่ง กำไรเติบโตอย่างมั่นคงแล้ว แต่กำลังเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ผลประกอบการมีแนวโน้มชะลอตัว
และราคาหุ้นนอนแบงก์มีทิศทางปรับตัวสูงขาลง นักลงทุนจึงไม่รีบร้อนเข้าไปรับ
เพราะยังมีโอกาสรอคอยเพื่อเก็บหุ้นนอนแบงก์ในราคาต้นทุนที่ต่ำกว่า