ทันทีที่ตลาดหุ้นเปิดการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคาหุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ทรุดฮวบลง เนื่องจากนักลงทุนเทขาย หลังผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ชะลอตัวลง
GPSC ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปีนี้ หลังปิดการซื้อขายหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน โดยมีกำไรสุทธิ 1,874.75 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,274.38 ล้านบาท
แต่รวมงวด 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 6,150.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,050.24 ล้านบาท
ผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ลดลงทำให้เกิดการเทขายราคาหุ้น GPSC เปิดซื้อขายที่ราคา 77.75 บาท และดีดกลับขึ้นมาที่ 78.25 บาท ก่อนลงไปต่ำสุดที่ 75 บาท แต่ช่วงปลายตลาดกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 26 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือลดลง 3.18% มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 3,234.48 ล้านบาท
การดิ่งลงของหุ้น GPSC ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงหุ้นกลุ่มโรงไฟฟาตัวอื่นซึ่งถูกนักลงทุนเทขายตาม จนราคาปรับตัวลงในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ซึ่งปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
หุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ซึ่งปิดที่ 45.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หุ้นบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ซึ่งปิดที่ 175 บาท ลดลง 1.50 บาท หุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ซึ่งปิดที่ 41.75 บาท ลดลง 1 บาท รวมทั้งหุ้นบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH โดยปิดที่ 44 บาท ลดลง 1 บาท
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเคยคึกคักหลายปีก่อนหน้า แต่ปีนี้มีลักษณะประคับประคองตัว ราคาหุ้นไม่ได้ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น เนื่องจากส่วนใหญ่ค่าพี/อี เรโช สูง และยังได้รับผลกระทบจากวิกฤต “โควิด-19” ทำให้ผลประกอบการลดลง
GPSC มีค่าพี/อี เรโช 26 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 1.91% ในรอบ 12 เดือนราคาเคยพุ่งขึ้นสูงสุด 88 บาท และลงมาต่ำสุดที่ 60.75 บาท โดยขยับอยู่ในกรอบประมาณ 70-80 บาทเศษมาพักใหญ่
การปรับตัวลงแรงในครั้งนี้เกิดจากผลประกอบการที่ลดลงโดยตรง และยังส่งกระทบทางจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เพราะนักลงทุนกังวลว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 จะลดลงเหมือน GPSC จึงพากันเทขายหุ้น เพื่อลดความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม จะต้องรอดูประเมินผลประกอบการหุ้นโรงไฟฟ้าบริษัทอื่นที่กำลังทยอยประกาศตามมาว่า ไตรมาสที่ 3 กำไรจะทรุดลงหรือไม่ ซึ่งหากบริษัทใดผลกำไรเติบโต ราคาหุ้นมีโอกาสดีดกลับขึ้นมาได้เหมือนกัน
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่อยู่ในความนิยมของนักลงทุน ราคาหุ้นมักไม่มีความผันผวนรุนแรง และช่วงที่ราคาหุ้นเกิดการปรับฐาน นักลงทุนถือเป็นโอกาสในการหาจังหวะช้อนซื้อ
แต่ GPSC และหุ้นโรงไฟฟ้าตัวอื่นซึมซับข่าวร้าย ผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ทรุดลงจบสิ้นหรือยัง
ถ้าซึมซับข่าวร้ายไปหมดแล้ว นักลงทุนที่รอคอยจังหวะซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าคงเตรียมตัวช้อนเก็บได้ โดยเฉพาะนักลงทุนที่พร้อมจะถือยาว เพราะในระยะสั้น หุ้นโรงไฟฟ้ายังไปไหนไม่ได้ไกล
ปีนี้ไม่ใช่เวลาของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่อาจซื้อเพื่อรอปีหน้าฟ้าใหม่