xs
xsm
sm
md
lg

แบรนด์บ้านแนวราบรับเปิดประเทศ-ผ่อน LTV ผุดโครงการเจาะลูกค้าไฮเอนด์ ห่วงสัญญาณดอกเบี้ยขยับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายชูรัชฏ์ ชาครกุล
บิ๊กลลิล พร็อพเพอร์ตี้ฯ คาดเปิดประเทศหนุนอสังหาฯ ไตรมาส 4 พลิกฟื้น วิเคราะห์การแข่งขันด้านราคาลดน้อยลง มีผลให้ยอดโอนปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เผยแนวราบตลาดเรียลดีมานด์ยังเติบโต เตือนปี 65 รับมือปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยจ่อขยับ แรงฟื้นของภาคท่องเที่ยว พร้อมเติมเต็มกลุ่มลูกค้าทุกระดับราคากับโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ กลุ่มราคา 5-8 ล้านบาท ปรับโฉมสู่ “บ้านลลิล The Prestige” ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ มูลค่า 1,000 ล้าาบาท ด้าน บมจ.บริทาเนีย ส่ง “แกรนด์ บริทาเนีย” 3 โครงการใหม่เจาะลูกค้าไฮเอนด์ รับเปิดประเทศ ผ่อนคลาย LTV

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 ว่า ผลกระทบของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีการชะลอเปิดโครงการใหม่ และแม้ว่าในกลุ่มโครงการแนวราบจะมีการเปิดโครงการจำนวนมาก แต่เมื่อมาพิจารณาตัวเลขจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จะพบ ที่อยู่อาศัยจดทะเบียนใหม่ในส่วนนิติบุคคล กรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วง 8 เดือนแรกของปี 64 ที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ปรับตัวลดลง บ้านเดี่ยวมีการเติบโตประมาณ 5% จาก 6,800 หน่วยเพิ่มเป็น 7,100 หน่วย

มาพิจารณาตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) บริษัทอสังหาฯ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ในปีที่ผ่านมาไม่ได้ชะลอตัวลงมาก เพราะมีการทำเรื่องราคาอย่างหนักเพื่อดึงกระแสเงินสดกลับเข้าสู่บริษัท ทำให้ในปี 2563 ตลาดคอนโดฯ ช่วง 8 เดือนแรกมียอดโอน 42,793 หน่วย แต่ปีนี้ เรื่องของการทำราคาน้อยลง ส่งผลให้ตัวเลขการโอนลดลงมาอยู่ที่ 28,262 หน่วย ขณะที่ตลาดแนวราบลดลง 13% บ้านเดี่ยวลดลงเพียง 8-9%

"ปีนี้เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ตลาดเรียลดีมานด์ จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา เปิดโครงการใหม่ไม่มาก สิ่งที่หลายคนกังวลว่า โครงการแนวราบจะโอเวอร์ซัปพลายนั้น ตอนนี้เข้าสู่การจัดสมดุลของตลาด ขณะที่การเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา อาจจะช่วยให้ตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 4 พลิกฟื้นขึ้นมา"

อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดจากนี้ คือ 1.เรื่องของโควิด-19 2.ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดวงเงินพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งจะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยในปี 65 ด้วย 3.ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น 4.ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย และ 5.ภาคการท่องเที่ยวและบริการจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน เนื่องจากมีสัดส่วน 13-15% ต่อจีพีดี

นายชูรัชฏ์ กล่าวว่า จากผลสำรวจของผู้บริโภคในปัจจุบันพบว่าบ้านระดับราคา 5-8 ล้านบาท ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการขยายครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น บ้านขนาดใหญ่จึงตอบโจทย์ บริษัทจึงได้พัฒนาปรับโฉมแบรนด์บ้านเดี่ยว จาก “บ้านลลิล” สู่ “บ้านลลิล The Prestige” เพื่อเป็นการเติมเต็มกลุ่มบ้านระดับราคา 5-8 ล้านบาท เพื่อให้ครอบคลุมทุก segment โดยได้เปิดตัวโครงการแรก “บ้านลลิล The Prestige” ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ บนพื้นที่ 39 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท รวม 181 ยูนิต ท่ามกลางกระแสตอบรับในช่วง soft opening ที่ดีเกินคาด ด้วยศักยภาพของทำเลในย่านประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ ที่สะดวกในเรื่องของการเดินทาง ประกอบกับประสบการณ์จากช่วงโควิด-19 ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกบ้านเดี่ยวเพื่อลดความเสี่ยงจากการใช้พื้นที่ส่วนรวม

สำหรับภาพรวมตลอดปีของบริษัทลลิลฯ มั่นใจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ได้แก่ ยอดขายปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าที่ 7,000 ล้านบาท ตัวเลขล่าสุดช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) กวาดยอดขายได้ 6,300 ล้านบาท เติบโต 11-12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเปิดโครงการได้รวม 9 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ขณะที่ด้วยจุดแข็งที่บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญตลาดแนวราบ จึงมีบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมโอนคิดเป็นมูลค่า 1,100-1,200 ล้านบาท และที่อยู่ในกระบวนการก่อสร้าง มูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์
บริทาเนียส่ง “แกรนด์ บริทาเนีย” 3 โครงการใหม่เจาะลูกค้าไฮเอนด์

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากที่รัฐบาลเดินหน้าเปิดประเทศ ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ผ่อนปรนมาตรการ LTV เพื่อกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ และการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ บริษัทฯ จึงวางแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จำนวน 6 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “แกรนด์ บริทาเนีย - บริทาเนีย - ไบรตัน” รวมมูลค่าโครงการ 4,300 ล้านบาท เพื่อรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ล่าสุด ได้นำร่องเปิดตัวโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ภายใต้แบรนด์ “แกรนด์ บริทาเนีย” 3 โครงการ บนทำเลศักยภาพใกล้ทางด่วนและแนวรถไฟฟ้า ได้แก่ โครงการแกรนด์ บริทาเนีย พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา บ้านเดี่ยว 96 ยูนิต เริ่มต้นยูนิตละ 8.99-15 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท 2.โครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ จำนวน 107 ยูนิต เริ่มต้นยูนิตละ 6.99-11 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท

และ 3.โครงการแกรนด์ บริทาเนีย นนทบุรี สเตชั่น เพียง 62 ยูนิต ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 7-11 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น