xs
xsm
sm
md
lg

FinVest เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ซื้อขายกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ไม่เสียค่าฟีซ้ำซ้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



FinVest แอปพลิเคชันเพื่อการลงทุนด้วยความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทย ลู อินเตอร์เนชันแนล และกลุ่มโรโบเวลธ์ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มทางเลือกและโอกาสทำกำไรให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อขายกองทุนต่างประเทศได้เองโดยตรงมากกว่า 1,000 กองทุน จาก 33 บลจ.ชั้นนำทั่วโลกได้เป็นแอปแรกในประเทศไทย รับเทรนด์เศรษฐกิจสัญญาณบวกและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนจากการเติบโตของตลาดกองทุนรวมต่างประเทศที่มีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท มั่นใจตอบโจทย์นักลงทุนไทยด้วยตัวเลือกหลากหลายครอบคลุม ทันเมกะเทรนด์ระดับโลก ไม่เสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน

นายพิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เ
ปิดเผยว่า ฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนรวมต่างประเทศ หรือ Offshore ที่พัฒนาขึ้นร่วมกันของลู อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) กลุ่มโรโบเวลธ์ ช่วยตอกย้ำจุดเด่นของ FinVest ที่เป็น Open Architecture ซึ่งเป็นการคัดเลือกกองทุนรวมจาก บลจ.ชั้นนำทั่วโลกมาให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อโดยตรงได้เอง ทำให้ไม่เสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนและสะดวกครบจบภายในแอปเดียว แตกต่างจากการลงทุนแบบเดิมที่การซื้อขายมีข้อจำกัด เนื่องจากสถาบันการเงินจะขายเฉพาะกองทุนรวมของ บลจ. ที่อยู่ในเครือเท่านั้น

ทั้งนี้ การลงทุนแบบ Open Architecture ใน FinVest ทำให้นักลงทุนเข้าถึงรูปแบบการลงทุนที่หลากหลายทั่วโลก ซึ่งในบางหมวดธุรกิจเป็นกลุ่มที่ยังไม่ครอบคลุมในตลาดหุ้นไทย เช่น เทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนและยังตอบโจทย์นักลงทุนสมัยใหม่ที่ต้องการความหลากหลาย และต้องการเปิดโอกาสลงทุนในต่างประเทศด้วยวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง สามารถบริหารการลงทุนให้สอดคล้องทันสถานการณ์

"จากการที่นักลงทุนยังกังวลกับสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงเศรษฐกิจไทยที่หดตัว จึงทำให้แนวโน้มการลงทุนกองทุนต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนเมษายน 2564 กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ FIF (ไม่รวม Term Fund) ได้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากกว่าระดับ 1 ล้านล้านบาท และภาพรวมครึ่งปีแรกมีเงินไหลเข้าสะสมถึง 1.9 แสนล้านบาท การเปิดฟีเจอร์ใหม่นี้จึงสามารถตอบโจทย์ให้นักลงทุนได้"

น.ส.โจอันนา แทง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลู อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการลงทุนระดับโลกในเครือผิงอัน กรุ๊ป (Ping An Group) กล่าวว่า การพัฒนาฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนต่างประเทศเป็นการทำงานร่วมกันโดยนำจุดแข็งของทั้ง 3 องค์กร มาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการลงทุนแบบดิจิทัลในประเทศไทยที่มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้เชื่อมต่อ FinVest เข้ากับระบบซื้อขายหน่วยลงทุนในต่างประเทศเพื่อลงทุนได้โดยตรง และยังสามารถใช้สกุลเงินบาทซื้อกองทุนต่างประเทศได้ทันที โดยระบบจะทำการแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราต่างประเทศให้แบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการซื้อขายในทุกขั้นตอน นอกจากการลงทุนในต่างประเทศจะมีผลตอบแทนที่น่าจูงใจแล้ว FinVest ยังช่วยให้การซื้อขายกองทุนต่างประเทศง่ายขึ้นและมีตัวเลือกที่หลากหลาย นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถลงทุนกองทุนต่างประเทศโดยตรงด้วยจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำที่น้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ในไทย
ทั้งนี้ FinVest ได้รับการพัฒนาระบบให้ใช้งานง่าย โดยคำนึงถึง User Experience และ User Interface ที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งลู อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับซื้อขายกองทุนในต่างประเทศ รวมทั้งความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี มาพัฒนาฟีเจอร์การซื้อขายกองทุนต่างประเทศ บน FinVest ให้ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความง่ายและความสะดวกต่อการใช้งาน

นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรโบเวลธ์ บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน Wealth Tech ที่เป็นผู้ดูแลการให้บริการแพลตฟอร์ม FinVest กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน FinVest ประมาณ 130,000 คน ซึ่งมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 26-30 ปี และส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทที่มีความสนใจในการลงทุน ทั้งยังพบว่าผู้ใช้บริการ FinVest กว่า 80% ลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศผ่านธีมการลงทุนประเภทต่างๆ ที่ได้รับการแนะนำโดยตรงจากแอป สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนไทยสนใจการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีในการนำเสนอฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนต่างประเทศโดยตรง หรือ Offshore เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนต่างประเทศให้แก่นักลงทุนไทย ให้ผู้ใช้บริการ FinVest สามารถซื้อขายกองทุนต่างประเทศได้ตรง ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนอีกต่อไป และ FinVest จะแลกเงินบาทเป็นเงินตราต่างประเทศให้แบบอัตโนมัติ โดยใช้อัตราแรกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังได้คัดเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจในรูปแบบ Thematic Investment เน้นการให้ข้อมูลการลงทุนอย่างเป็นกลางผ่านการคัดเลือกโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนร่วมกับผู้บริหารใน Product Screening Committee ที่ช่วยกันคัดเลือกกองทุนจาก 33 บลจ.ชั้นนำทั่วโลก ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อกองทุนด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 30,000 บาทเท่านั้น และช่วงเปิดตัวฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนรวมต่างประเทศโดยตรงบน FinVest ระหว่างวันนี้-15 พฤศจิกายน 2564 ฟรี! ค่าธรรมเนียมจากการขายหน่วยลงทุน (Front-end-fee) แบบไม่มีเพดาน

สำหรับ 5 กองทุนแนะนำ ดังนี้
กองทุน Robeco Smart Mobility จาก UOBAM เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยี ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับ
กองทุน Global Energy Transition จาก Schroder ISF เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจและเทคโนโลยีพลังงานสะอาดระดับโลก
กองทุน Blockchain Innovation จาก BNY Mellon เน้นลงทุนในบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนในหลากหลายอุตสาหกรรม
กองทุน Healthcare Innovation จาก Schroder ISF เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ รวมทั้ง Johnson & Johnson, AstraZeneca, Pfizer
กองทุน Worldwide Long Term Global Growth Fund จาก Baillie Gifford เน้นลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่นจากทั่วโลก และมีความสามารถในการแข่งขันสูง


กำลังโหลดความคิดเห็น