หุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาซื้อขายตลาดหุ้นในช่วงนี้ แม้หลายตัวจะอยู่ในอาการที่ร่อแร่ หวิดหลุดราคาจอง แต่ก็ไม่มีตัวไหนที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนอย่างย่อยยับเท่าหุ้น บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA
เพราะหลังจากราคาหุ้นถูกลากขึ้นสูงลิ่วในวันแรก ก็ถูกถล่มขายจนราคาปักหัวลง จนสร้างจุดต่ำสุดนับจากเข้าตลาดหุ้น
MENA เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยนำหุ้นจำนวน 184 หุ้น ราคาพาร์ 50 สตางค์ เสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคาหุ้นละ 1.20 บาท
หุ้นทั้งหมดมีจำนวน 734 ล้านหุ้น โดยกลุ่มขจรวุฒิเดช ถือหุ้นรวมกันสัดส่วนประมาณ 62.5% ของทุนจดทะเบียน และมีการนำหุ้นเข้าไซเรนพีเรียด หรือระยะเวลาห้ามขายจำนวน 403.70 หุ้น หรือ 55% ของทุนจดทะเบียน จึงมีหุ้นที่หมุนเวียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์รวมทั้งหมดประมาณ 330.30 ล้านหุ้น
หุ้นน้องใหม่ตัวนี้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าตกตะลึงในวันแรก เพราะมีปริมาณการซื้อขายถึงสูงถึงประมาณ 10 เท่าของจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนทั้งหมดในตลาด
หุ้น MENA เปิดซื้อขายที่ 1.60 บาท ก่อนจะมีการลากราคาไปสูงสุดที่ 2.82 บาท และถูกถล่มขาย จนลงมาปิดที่ 2.48 บาท สูงกว่าของ 1.28 บาทหรือสูงกว่าจอง 106.67%
ราคาหุ้นเฉลี่ยการซื้อขายวันแรกอยู่ที่ 2.27 บาท
ส่วนมูลค่ามูลค่าการซื้อมีจำนวน 7,434.57 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณการซื้อขาย 3,278.43 ล้านหุ้น สูงเกือบ 10 เท่าของหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดทั้งหมด
คำถามคือ เป็นไปได้หรือที่นักลงทุนรายย่อยจะซื้อขายเก็งกำไรหุ้น MENA ถึง 10 รอบ ภายในวันเดียว
หลังจากแสดงฤทธิ์เดชในการซื้อขายวันแรก หุ้น MENA ก็ออกลาย ราคาทรุดลงต่อเนื่อง จนเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ลงมาปิดที่ 1.51 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดนับจากเข้าตลาดหุ้น และไม่รู้จะทรุดลงไปถึงขนาดไหน
นักลงทุนที่แห่เก็งกำไรวันแรกบาดเจ็บล้มตายเป็นใบไม้ร่วงเหมือนติดไวรัสโควิด-19
ตลาดหลักทรัพย์กำลังเข้มงวดกับการกำกับหุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวผิดปกติ ตัวไหนกระดิกขึ้นมา ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายทันที
แต่ทำไมตลาดหลักทรัพย์จึงเปิดเสรีให้หุ้นน้องใหม่ปล่อยให้ปั่น ปล่อยให้ลากนักลงทุนรายย่อยขึ้นไปเชือด เหมือนกับหลับตาทั้งข้าง และเปิดเวทีให้หุ้นใหม่ปล้นเงินนักลงทุน
ไม่เคยมีผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์หรือผู้บริหารตลาด MAI คนใดออกมาเตือนภัยหุ้นใหม่ โดยเฉพาะการเข้าซื้อขายในวันแรก
ไม่มีใครรู้ว่าตลาดหลักทรัพย์เคยเข้าไปตรวจสอบหุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายวันแรกหรือไม่ หรือว่า “ปล่อยผี” เปิดให้ปั่นหุ้นกันโดยเสรี โดยไม่มีการตรวจสอบใดๆ
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์และตลาด MAI เลิกภาคภูมิใจกับปริมาณบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นได้แล้ว เลิกลิงโลดกับมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดรวมหรือมาร์เกตแคปที่พุ่งขึ้น แต่จะต้องตระหนักในการปกป้องผลประโยชน์ประชาชนผู้ลงทุน
อย่าเห็นแก่หน้าบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน อย่าเกรงใจบริษัทผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น อย่าพะเน้าพะนอแต่บริษัทจดทะเบียน โดยมองข้ามความเสียหายของประชาชนผู้ลงทุน
และปล่อยให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ปล่อยให้ถูกโกง
ราคาหุ้นใหม่เคลื่อนไหวอย่างร้อนแรงในการเข้ามาซื้อขายวันแรกไม่ใช่เรื่องผิดปกติเสมอไป การเก็งกำไรหุ้นใหม่ก็ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม ถ้าการซื้อขายเป็นไปตามกลไกตลาดโดยธรรมชาติ
แต่การซื้อขายหุ้นใหม่ทุกตัวในวันแรก เป็นไปตามกลไกตลาดโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมจริงหรือ ไม่มีขาใหญ่หรือเจ้ามืออยู่เบื้องหลังความร้อนแรงหรือ
ไม่มีรายการ “ลาก” นักลงทุนรายย่อยขึ้นไป “เชือด” เลยหรือ
คนกลุ่มหนึ่งฟันกำไรงามๆ จากส่วนต่างราคาหุ้น ร่ำรวยจาก MENA ในวันแรกที่เข้าซื้อขายไปแล้ว
แต่นักลงทุนจำนวนน่าจะหลายพันคนต้องตรอมตรม อมทุกข์ เพราะหลงเข้าไปเก็งกำไรหุ้นน้องใหม่ตัวนี้ จนเสียหายเหมือนถูกโจรปล้น
ตลาดหลักทรัพย์ไม่ควร “ชาด้าน” กับความร้อนแรงของหุ้นใหม่ แต่กลไกตรวจสอบจะต้องทำงานทันที ไม่ใช่ “ปล่อยผี” ให้สร้างราคากัน
เพียงเพื่อรักษาหน้าตลาดหลักทรัพย์หรือตลาด MAI โดยรับหุ้นใหม่มาแล้วราคาไม่ต่ำกว่าจอง
การซื้อขายหุ้น MENA ในวันแรกซึ่งเคาะกันสนั่นหวั่นไหว จนปริมาณการซื้อขายสูงเกือบ 10 เท่าของจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนทั้งหมด ตลาดหลักทรัพย์จะต้องตรวจสอบการซื้อขาย เพื่อค้นหาเบื้องหลังความร้อนแรงหุ้นน้องใหม่ตัวนี้
เพราะราคาหุ้นที่ถูกลากจนพุ่งทะยาน และมูลค่าการซื้อขายที่พองโตเกินตัว เชื่อกันว่า ต้องมีขาใหญ่หรือเจ้ามืออยู่เบื้องหลังแน่