ปีนี้เกิดปรากฏการณ์หุ้นขนาดเล็กหลายตัว ถูกจุดพลุไล่ราคาจนพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง แม้แต่ตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินมาตรการกำราบ แต่ไม่สามารถสกัดความร้อนแรงได้ โดยหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เป็นหุ้นเล็กอีกตัวที่ถูกลากขึ้นมาสูงลิบ
SABUY มีประวัติความเป็นมาอย่างโชกโชน เดิมเป็นบริษัทลูกของบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ซึ่งมี นายอมร มีนะโม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก่อนจะขายหุ้นให้กลุ่มนายวิชัย วัชรพงศ์ หรือเสี่ยยักษ์ นักลงทุนขาใหญ่
และเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI ไม่กี่เดือน กลุ่มนายวิชัย ขายหุ้นจำนวน 288.09 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 32.44% ของทุนจดทะเบียนให้กลุ่มรุจนพรพจี กลุ่มวีระประวัติ และนักลงทุนกลุ่มอื่น
SABUY ดำเนินธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติ จำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารสำเร็จรูปผ่านตู้อัตโนมัติ ให้บริการติดตั้งและวางระบบศูนย์อาหาร โดยเข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 หลังนำหุ้นประมาณ 157 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ลงทุนในราคาหุ้นละ 2.50 บาท จากพาร์ 1 บาท
การซื้อขายวันแรกไม่สดใสนัก โดยราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 2.62 บาท ก่อนจะลงมาปิดที่ 1.87 บาท ต่ำกว่าราคาจอง 63 สตางค์ หรือต่ำกว่าจอง 25.20% โดยมีมูลค่าซื้อขาย 947.85 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณซื้อขาย 426.57 ล้านหุ้น สูงกว่าหุ้นที่นำเสนอขายนักลงทุนครั้งแรกที่มีเพียง 157 ล้านหุ้น
เสี่ยยักษ์ ได้ขายหุ้นออกทั้งหมดก่อนหุ้นเข้าจดทะเบียน โดยหุ้นที่เหลืออยู่ได้นำมาขายพ่วงให้นักลงทุนทั่วไปในการกระจายหุ้นครั้งแรก
นักลงทุนที่จองหุ้น SABUY ถ้าทนถือไม่ไหว ต้องยอมตัดขายขาดทุนออกไป แต่ถ้าทนถือไหว มีกำไรกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะหากทนถือจนถึงวันนี้
เพราะแม้จะย่ำอยู่แถว 1 บาทเศษอยู่หลายเดือน แต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 102.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 57.99 ล้านบาท ราคาหุ้นจึงพุ่งทะยานขึ้น และปิดที่ 2.86 บาท สูงกว่าจองเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นใส่เกียร์ 5 เดินหน้ามาต่อเนื่อง
จากราคาปิดที่ 1.81 บาท เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 SABUY พุ่งขึ้นมาปิดที่ 10.90 บาท เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 โดยภายในเวลา 5 เดือนเศษ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.09 บาท หรือเพิ่มขึ้น 502% ขณะที่ค่าพี/อี เรโช พุ่งขึ้นเป็นประมาณ 103 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 0.30%
ใครที่ถือหุ้น SABUY ไว้ กำไรสบายไปแล้ว เพราะราคาหุ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่นับจากเข้าตลาด MAI ก่อนย้ายเข้าตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 16 มีนาคม แต่อนาคตจะสบายหรือไม่ต้องเฝ้าพฤติกรรมหุ้นตัวนี้กันต่อไป
เพราะเป็นหุ้นที่เคลื่อนไหวอย่างไม่ปกติธรรมดา และถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายถึง 4 ครั้ง โดยครั้งแรก วันที่ 26 มีนาคม 2564 ครั้งที่สอง วันที่ 1 เมษายน ครั้งที่สาม วันที่ 22 เมษายน และครั้งล่าสุด วันที่ 18 พฤษภาคม
แต่สบายเป็นหุ้นหัวดื้อไปแล้ว ราคายังคงถูกลากขึ้นดอยสูงต่อเนื่อง
ความคาดหมายแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโตเป็นจุดขายที่ถูกนำไปกระตุ้นการเก็งกำไร ปลุกให้นักลงทุนรายย่อยเกิดความคาดหวังกับอนาคต จนแห่เข้ามาลุยหุ้น SABUY ทั้งที่ราคาหุ้นพุ่งมาถึงจุดที่เสี่ยงภัย เพราะไม่รู้รอบนี้จะปิดเมื่อไหร่ และราคาจะจบอย่างไร
ภายในเวลา 5 เดือนเศษ SABUY พุ่งขึ้นกว่า 500% นักลงทุนที่มีหุ้นต้นทุนต่ำ และยังไม่ขายทำกำไรถือว่า ใจแข็งจริงๆ
เพราะราคาถูกลากขึ้นมาสูงเฉียดดอยขนาดนี้ น่าจะเผ่นหนี หอบกำไรใส่กระเป๋าไว้ก่อน ไม่ต้องลุ้นระทึกกับการปิดฉากหุ้นร้อน SABUY