หลังจากขยับขึ้นสวนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสามอยู่พักหนึ่ง เมื่อวันจันทร์ที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นก็ทนผลกระทบไม่ไหว ดัชนีหุ้นดิ่งลง 25.22 จุด ถอยมาตั้งหลักที่ระดับ 1,541.12 จุด ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า
การปรับฐานรอบนี้อาจยืดเยื้อ และดัชนีหุ้นมีโอกาสที่จะทรุดลงไปแตะระดับ 1,500 จุด โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” ที่พุ่งขึ้นเป็นปัจจัยลบกดดัน
นักลงทุนสถาบันเทขายหุ้น 3,519.53 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 765.05 ล้านบาท และต่างชาติขาย 1,317.79 ล้านบาท โดยมีนักลงทุนรายย่อยเป็นผู้รับเหมาซื้ออยู่กลุ่มเดียว 5,602.37 ล้านบาท
ยอดสะสมการซื้อหุ้นของนักลงทุนรายย่อยนับจากต้นปีพุ่งขึ้นเป็น 60,416.87 ล้านบาทแล้ว
หุ้นแทบทั้งกระดานแดงฉาน เว้นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งขานรับมาตรการรัฐบาลที่กำลังพิจารณาให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีนป้องกัน “โควิด-19”
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะระลอกสาม เป็นที่ยอมรับแล้วว่ามีความรุนแรงน่าวิตกกังวล สะท้อนจากตัวเลขผู้คิดเชื้อรายใหม่ที่เข้าสู่ตัวเลข 4 หลัก จนรัฐบาลต้องเร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับวิกฤต
สถานการณ์ตลาดหุ้นเปลี่ยนไป จากแนวโน้มการแกว่งตัวขึ้น รอทะลุเป้าหมาย 1,600 จุด กลายเป็นแนวโน้มการปรับฐานใหญ่ และอาจลงไปสู่แนวรับที่ระดับ 1,500 จุด
ย้อนหลัง 10 ปีที่ผ่านมา เดือนเมษายนหุ้นมักจะขึ้น โดยก่อนเทศกาลสงกรานต์หุ้นจะลง เพราะนักลงทุนชะลอการตัดสินใจช่วงวันหยุดยาว แต่หลังสงกรานต์หุ้นจะขึ้น เพียงแต่เมษายนปีนี้อาจแตกต่างจากเมษายนปีก่อนๆ
หลังสงกรานต์หุ้นอาจไม่ฟื้น เพราะความกังวลว่า การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะลุกลามในวงกว้างจากการเดินทางข้ามจัดหวัด การพบปะและสังสรรค์ตามประเพณีเทศกาลสงกรานต์
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ช่วงสงกรานต์จะต้องรอประเมินและติดตามกันประมาณ 14 วัน หรือต้องรอดูจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ และจะเป็นปัจจัยลบที่กดดันตลาดหุ้นต่อไป
การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวเร็วขึ้น เพราะรัฐบาลผลักดันนโยบายเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่การแพร่ระบาดระลอกสาม กำลังดับความหวังของนักลงทุนจนหมดสิ้น
เพราะแม้แต่คนในประเทศยังยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ เพราะกลัวติดเชื้อโควิด-19
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวทรุดลงยกแผง เพราะนักลงทุนกลัวว่า การท่องเที่ยวจะฟุบยาว ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารที่ร่วงกันระนาว เพราะกลัวปัญหาหนี้เสียพุ่งขึ้นถ้าเศรษฐกิจปักหัวลงอีก
การปรับฐานใหญ่รอบนี้ไม่รู้ว่าจะยาวนานขนาดไหน และไม่รู้ว่าดัชนีหุ้นจะลงลึกขนาดไหน เพราะจะต้องรอประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คงชะลอการตัดสินใจ ไม่กล้าผลีผลามช้อนซื้อหุ้น
เพราะเห็นแล้วว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นรุนแรงขนาดไหน ทั้งฝรั่งและกองทุนเทขายหนีตายกันหมด โยนหุ้นต้นทุนสูงใส่รายย่อยจนรับเละ
การดิ่งลงกว่า 25 จุดของดัชนีหุ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อาจเป็นจุดเริ่มต้นของขาลงรอบนี้ และในระยะสั้นไม่มีสัญญาณการดีดกลับ แต่มีแนวโน้มที่จะทรุดลงไปสู่แนวรับ 1,500 จุด
ถ้าอยากช้อนหุ้นขาลงน่าจะรอทยอยเก็บของแถวระดับ 1,500 จุด และยังไม่รู้ว่าเป็นแนวรับที่ปลอดภัยหรือยัง
เพราะ “โควิด-19” ระลอกนี้แรงจริงๆ