เพียง 2 วันทำการหลังการระบาดใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลาดหุ้นเกิดการถล่มทลาย ดัชนีหุ้นปักหัวลงประมาณ 40 จุด และมีแนวโน้มที่จะหลุดแนวรับ 1,550 จุดอีกครั้ง
หุ้นแทบทุกกลุ่มร่วงกันหมด กระดานหุ้นแดงฉาน มีเพียงหุ้นไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ดีดตัวขึ้นสวนกระแส เช่น หุ้นกลุ่มถุงมือยาง ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” เพราะถุงมือยางเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น
ยามตลาดขาลง หุ้นแทบทุกกลุ่มมักปรับฐานกันถ้วนหน้า แต่รอบนี้หุ้นที่ถูกผลกระทบมากที่สุดคือ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว
ก่อนหน้านี้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวขึ้น เพราะนักลงทุนคาดหมายว่า ธุรกิจท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเร็ว ยิ่งรัฐบาลประกาศเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ยิ่งกระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว
ทั้งหุ้นธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจค้าปลีก หุ้นสนามบินและสายการบิน ขยับขึ้นยกแผง เพราะประเมินกันว่า ผลประกอบการปีนี้จะกระเตื้องขึ้น
แต่การแพร่ระบาดใหม่ของ “โควิด-19” ระลอกล่าสุด ได้สร้างความกังวลให้ทุกฝ่าย เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนพุ่งขึ้นสู่เลข 3 หลัก และการแพร่ระบาดกระจายในวงกว้าง โดยรุกเข้าไปสู่แวดวงนักการเมือง
แม้แต่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังติด “โควิด-19” และไม่รู้ว่าจะมีคนในรัฐบาลติด “โควิด-19” ตามมาอีกหรือไม่ ซึ่งเป็นผลจากการแพร่กระจายผู้ที่ใช้บริการสถานบันเทิงย่านทองหล่อ
การแพร่ระบาดระลอกใหม่มีความรุนแรงมาก และอาจลุกลามในวงกว้าง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อกลับภูมิลำเนา รวมทั้งจะมีการพบปะสังสรรค์ ซึ่งจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ และจะต้องรอประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดอีกครั้งหลังสงกรานต์
ตลาดหุ้นแม้ซึมซับรับข่าวผลกระทบการระบาดใหม่ของ “โควิด-19” ไปแล้ว แต่เป็นเพียงปฏิกิริยาตอบรับปัจจัยลบในเบื้องต้นเท่านั้น โดยแนวโน้มหุ้นมีโอกาสที่จะลงต่อ เพราะการระบาดใหม่ของเชื้อไวรัสคงไม่สงบลงง่ายๆ
แนวรับดัชนีหุ้น 1,550 จุด คงเอาไม่อยู่ และเริ่มมองกันแล้วว่า หุ้นอาจถอยหลังไปตั้งหลักใหม่ที่ระดับ 1,500 จุด และกลุ่มท่องเที่ยวเป็นหุ้นกลุ่มเสี่ยงที่จะปรับตัวลงแรง เนื่องจากราคาพุ่งขึ้นมาแรง บนความคาดหมายการท่องเที่ยวจะะกลับมาสู่ความคึกคัก
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน การท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะฟุบลงอีก โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจล้มแผนการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพราะกลัวการแพร่ระบาดใหม่ ขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศกำลังลังเลว่า จะยกเลิกแผนการเที่ยวช่วงสงกรานต์หรือไม่
ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวพยายามประคับประคองตัวเพื่อความอยู่รอด และกำลังมีความหวังในมาตรการเปิดประเทศ กระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ถ้าถูกผลกระทบจากการแพร่ระบาดใหม่ของ “โควิด-19” ซ้ำอีก อาจเกิดการล้มหายตายจากอีกระลอก
ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มท่องเที่ยวที่คาดว่าปีนี้จะดีขึ้น แต่เมื่อการท่องเทียวฟุบ ผลประกอบการคงขาดทุนต่อไป
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเริ่มปักหัวลงแล้ว เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT แต่บางบริษัทก็ยังแข็งขืนอยู่ เช่น หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT
อย่างไรก็ตาม การระบาดใหม่ของ” โควิด-19” กระทบการท่องเที่ยวโดยตรง และไม่มีหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวบริษัทใดจะหลีกหนีผลกระทบได้
นักลงทุนจึงต้องถอยห่างจากหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ถ้าถืออยู่ในมือไว้อาจต้องชิงจังหวะทิ้งไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงจากการระบาดที่รุนแรงของ “โควิด-19” ระลอกใหม่