ผู้จัดการรายวัน360 องศา - “บัตรกรุงไทย” เชื่อมั่นผลดำเนินงานปีนี้ New High จากปีก่อน ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายลูกค้ารวมแตะ 2.1 แสนล้านบาท จากแผนมุ่งเน้นสินเชื่อมีหลักประกันเพื่อลดความเสี่ยง พร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อรถยนต์ หวังเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อครบวงจรที่ลูกค้าเรียกหา ยืนยันเข้าถือหุ้น “เคทีบี ลีสซิ่ง” ช่วยตอบโจทย์ธุรกิจ
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กล่าวถึงอัตราการเติบโตของกำไรในปี 2564 ว่า จะอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ หรือดีกว่าปีที่ผ่านมา และสามารถทำกำไรนิวไฮจากปี 2563 ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิที่ 5,332 ล้านบาทได้แน่นอน เช่นเดียวกับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงปี 2563 ที่ระดับ 1.8% แต่การสำรองหนี้เสียจะลดลงเนื่องจากคุณภาพสินเชื่อมีคุณภาพมากขึ้น
“การสร้างโอกาสธุรกิจของบริษัทในปี 2564 เราจะเน้นกระตุ้นแผนยุทธศาสตร์ โดยจะเร่งเปลี่ยนแปลงองค์กรแบบก้าวกระโดด สร้างโอกาสในธุรกิจใหม่ให้บริษัทเติบโตมากขึ้นและเร็วขึ้น ควบคู่กับการทำธุรกิจเดิม โดยมุ่งขยายขอบเขตธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันให้มีความหลากหลาย เพื่อให้ KTC เป็นผู้เล่นหลักในตลาดที่ผู้บริโภคมองหา”
พร้อมกันนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC ยืนยันว่า การเข้าถือหุ้นในบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (เคทีบี ลีสซิ่ง) 75.05% จะทำให้บริษัทสามารถทำธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งทุกประเภท ต่อยอดธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันได้อย่างครบวงจร และยังสามารถใช้ประโยชน์จากสาขาและฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิม โดยบริษัทจะเข้าไปศึกษาระบบในเคทีบี ลีสซิ่ง และคาดว่าจะเริ่มออกแบบโมเดลธุรกิจได้หลังจากผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่8เม.ย.นี้
สำหรับธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ “เคทีซี พี่เบิ้ม” แม้จะเพิ่งเข้ามาเมื่อปลายปี 2563 แต่ KTC คาดหวังจะมุ่งขยายตลาดดังกล่าวในปี 2564 เพราะมองว่าเป็นสินเชื่อมีหลักประกันซึ่งมีความสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนรวดเร็วสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยเน้นทำการตลาดผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งได้จัดเตรียมทีมงาน “พี่เบิ้ม Delivery” คอยทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับลูกค้าเป้าหมายโดยตรง พร้อมแผนขยายพื้นที่ให้บริการไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น
“เคทีซี พี่เบิ้ม จะเริ่มต้นที่ภาคตะวันออก ภาคเหนือตอนบนและภาคใต้ตอนบน อีกทั้งร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจและธนาคารกรุงไทย ช่วยขยายฐานสมาชิกและออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ตลอดจนร่วมมือกับ เคทีบี ลีสซิ่ง เพื่อหาโอกาสต่อยอดและสนับสนุนธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถร่วมกัน เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการกลุ่มเป้าหมายและสร้างประสบการณ์ที่ดี ด้วยเป้าหมายยอดสินเชื่อในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท”
ส่วนธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล บริษัทจะมุ่งรักษาคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ที่ดี เน้นรักษาฐานสมาชิกปัจจุบันด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ดีผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยตั้งเป้าหมายยอดใช้จ่ายในปี 2564 เติบโต 8% หรือประมาณ 210,000 ล้านบาท ด้านธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ตั้งเป้ารักษายอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลปีนี้ให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าหมายจำนวนสมาชิกใกล้เคียงกัน ได้แก่ บัตรเครดิต 235,000 ใบ และสมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” 135,000 ราย
นอกจากนี้ KTC มีแผนจัดสัดส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นมากขึ้น และระดมเงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 12,000 ล้านบาท ในช่วงอายุที่สั้นลงจากเดิม เพื่อรองรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปี 2564 ขณะที่การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อบริษัทจะเน้นการบริหารต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นสำคัญ และบริหารพอร์ตลูกหนี้โดยรวมให้มีคุณภาพที่ดี เพื่อทำให้มีอัตราการเติบโตของกำไรในระดับที่ยอมรับได้และดีกว่าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 5,332 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวมเท่ากับ 90,149 ล้านบาท NPL ต่อเงินให้สินเชื่อรวมเท่ากับ 1.8% ฐานสมาชิกรวม 3.4 ล้านบัญชี แบ่งเป็นธุรกิจบัตรเครดิต 2,575,684 บัตร สินเชื่อลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 60,235 ล้านบาท NPL ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้บัตรเครดิต 1.3% ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อบุคคลมีจำนวนทั้งสิ้น 814,329 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวม 29,915 ล้านบาท NPL ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเท่ากับ 2.7%
