ไทยพาณิชย์เผยปีนี้เดินหน้ารุกธุรกิจหลังเร่งสำรองมาเต็มที่ พร้อมลุยลดต้นทุนต่อเนื่องตั้งเป้า 10% มั่นใจกองทุน-สำรองฯแกร่ง ด้านการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ยังดำเนินการต่อเนื่อง
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยถึงแผนในปี 2564 ว่า หลังจากที่ในช่วงปีที่ผ่านมาที่ธนาคารพร้อมด้วยทีมพนักงานได้ทุ่มเทในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ไปพร้อมๆ กับการเร่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธนาคารผ่านการตั้งสำรองหนี้สูญในระดับที่สูง เพื่อรองรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้น เมื่อปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายลงบ้างแล้ว จึงเป็นโอกาสที่จะมองไปข้างหน้า เพื่อสร้างการเติบโตและรองรับการลงทุนเพิ่มของลูกค้าเมื่อมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจที่เริมจะฟื้นตัวเป็นบวก
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังเดินหน้าบริหารจัดการด้านต้นทุนให้ลดลงเป็นยุทธศาสตร์หลักที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในปี 2564 จะสามารถปรับลดต้นทุนลงได้ในอัตรา 10% ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยเป็นการลดลงจาก 71,000 ล้านบาทในปี 2562 มาอยู่ที่ 63,000 ล้านบาทในปี 2563 ซึ่งการลด Cost to Income นั้น ถือเป็นกลยุทธ์ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมีเมื่อมีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีแล้วควรจะทำให้ต้นทุนด้านอื่นๆ ลดลง
"เงินลงทุนด้านเทคโนโลยีจะมากหรือน้อยไม่ได้เป็นสาระสำคัญ แต่เมื่อลงทุนแล้วจะต้องทำให้ต้นทุนด้านอื่นๆ ลดลง ซึ่งปีนี้ต้นทุนจะต้องลดลงและลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่เราทำมาและจะทำต่อเนื่องต่อไป"
นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า ต่อไปภาพรวมธุรกิจของธนาคารจะไม่เหมือนเดิม เพราะหากทำแบบเดิมๆ จะไม่สามารถแข่งขันกับคนอื่นได้ จึงต้องเปลี่ยนวิถีการทำธุรกิจแบบใหม่ อย่างแต่ก่อนจะเน้นทำธุรกิจขนาดใหญ่ๆ เช่น Mortgage ซึ่งทำแล้วได้ขนาด (Scale) แต่ปัจจุบันแบบเดิมก็ทำ แต่จะต้องทำแบบอื่นควบคู่กันไปด้วย เช่น แอป Robinhood ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเป็นมากกว่าฟูดเดลิเวอรี (Food delivery) คือจะต้องเป็นแพลตฟอร์มที่จะเชื่อมต่อไปยังธุรกิจอื่นๆ รวมถึงธุรกิจ New S Curve จะต้องเป็นธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม เพราะทำเหมือนเดิมจะแข่งไม่ได้
"ปีนี้เราพร้อมจะมองไปข้างหน้า เรามีสำรองที่แข็งแกร่งมีเกราะป้องกันเพียงพอ โดยเรามีเงินกองทุนขั้นที่ 1 สูงถึง 17% ถ้าพูดถึงเรื่อง Fee Based ยังดีอยู่ เช่น ธุรกิจประกันยังดี ปีนี้ยังคงเติบโตอยู่ ส่วนการช่วยเหลือลูกค้าไม่ค่อยกังวลเรื่องลูกค้าแล้วหลังจากช่วยเหลือกันไปแล้วอย่างเต็มที่ในปีที่ผ่านมา โดยในช่วงกว่า 1 ปีของสถานการณ์โควิด-19 ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีทั้งการเงินในรูปแบบต่างๆ การหาช่องทางการขายเพื่อสร้างรายได้ใหม่ รวมถึงคำแนะนำในการปรับตัวเพื่อรับมือภาวะผันผวนของเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงแรกได้ให้ความช่วยเหลือรวมแล้วกว่า 402,000 ล้านบาท"
ด้านนางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อลูกค้าเอสเอ็มอีรายกลางที่มียอดขายตั้งแต่ 70-500 ล้านบาท จำนวน 260,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีลูกหนี้ 160,000 ล้านบาท เข้ามาตรการพักหนี้ โดยปัจจุบันเหลือ 60,000 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการแก้หนี้ โดยประมาณ 10,000 ล้านบาท เป็นหนี้ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะกลับมาดำเนินธุรกิจได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของกลุ่มเอสเอ็มอีจะพยายามบริหารจัดการให้อยู่ในระดับใกล้เคียงปี 2563 ที่ 12% จากปี 2562 ที่มีระดับเอ็นพีแอลที่ 9%
