xs
xsm
sm
md
lg

ส่อง บจ.ไทยลุยตลาดกัญชงคึกคัก หวังแตกไลน์ธุรกิจ-เพิ่มรายได้ในอนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัทจดทะเบียนไทยหวั่นตกกระแส ประกาศลุยธุรกิจที่เกี่ยวกับกัญชง-กัญชาคึกคัก หลักๆ ยังคงเน้นตลาดอาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม และเวชภัณฑ์เครื่องสำอาง หวังเพิ่มช่องทางการตลาดและรายได้ให้เติบโตแบบต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต

บริษัทจดทะเบียนไทยประกาศลุยธุรกิจเกี่ยวกับกัญชงคึกคัก หลังจากกระทรวงสาธารณสุข ประกาศปลดล็อกให้สามารถใช้กัญชา และกัญชงในการผลิตอาหารได้ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.2564 เป็นต้นไป

ในขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ประกาศปลดล็อกเมื่อช่วงต้นปีในการปลูก นำเข้า และสกัด ก่อนขยายการอนุญาตเชิงพาณิชย์อื่นๆ ส่งผลให้มีภาคเอกชนหลายแห่งประกาศเตรียมรุกธุรกิจเกี่ยวกับกัญชง หวังช่วยหนุนธุรกิจเติบโต โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

จากการสำรวจของผู้สื่อข่าว ขณะนี้มี บจ. กว่า 20 แห่งได้ทยอยประกาศความพร้อมที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชง ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะสามารถนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาดได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป

STA-RBF พร้อมลุยตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เป็นบริษัทแรกที่ประกาศความพร้อมในเรื่องดังกล่าว โดยเตรียมขออนุญาตปลูกกัญชง และขออนุญาตนำเข้าเมล็ดกัญชงจากต่างประเทศ ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในเดือน มี.ค.นี้ และคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในช่วง มิ.ย.นี้ คาดว่าเริ่มปลูกได้จริงตั้งแต่ ก.ค.64 เป็นต้นไป เพราะต้องรอการนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากต่างประเทศก่อน และคาดว่า 4 เดือนจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตในรูปแบบเมล็ดและดอกเพื่อจำหน่าย หรือเริ่มตั้งแต่ ต.ค.64 เป็นต้นไป

สำหรับการลงทุนในธุรกิจการปลูกกัญชงเบื้องต้นคาดว่าใช้ 10 ล้านบาทสำหรับเมล็ดพันธุ์และการล้อมรั้ว ไม่นับรวมที่ดินเพราะมีอยู่ก่อนแล้ว โดยใช้พื้นที่ปลูกจำนวน 100-200 ไร่ โซนจังหวัดน่าน สกลนคร และชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่เปล่าของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 2,000 ไร่ นอกจากนี้ บริษัทยังมองเป้าหมายระยะยาวโดยทำธุรกิจโรงสกัดน้ำมัน CBD จากกัญชงคาดว่าจะเห็นในปี 66

ด้าน อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ก็เช่นกันที่อยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตเพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชง จาก อย. เบื้องต้น บริษัทมีที่ดินพร้อมที่จะปลูกต้นกัญชง และมีความพร้อมในขั้นตอนการสกัด ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะสามารถให้บริการกับลูกค้าได้ โดยบริษัทจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า รูปแบบผลิตภัณฑ์จากกัญชงก็จะขึ้นอยู่กับลูกค้า

DOD-JKN-RS-NRF พร้อมลุยเครื่องสำอาง-สมุนไพร-อาหารเสริม

บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ยื่นเอกสารขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานสกัดกัญชงจาก อย. แล้วตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสมุนไพรที่ผสมสารสกัดจากกัญชงของบริษัทออกจำหน่ายอย่างเร็วสุดได้ภายในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าให้ความสนใจและติดต่อให้บริษัทผลิตผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกัญชงเป็นจำนวนมาก ซึ่งระหว่างนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับมหาวิทยลัยต่างๆ เพื่อร่วมกันพัฒนา

จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่นำ "กัญชง" แท้ๆ มาเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์กว่า 10 รายการ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค เราตระหนักและได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนรายละเอียดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ โดยร่วมกับพันธมิตร (Strategic Manufacturing Partner) คือ บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) ในฐานะ Strategic Partner เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคจากการนำจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญการทำตลาดและการจัดจำหน่ายมาผนวกกับความชำนาญการในการผลิต จะช่วยสร้างมูลค่าทางธุรกิจจากผลิตภัณฑ์ "กัญชง" และผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

ส่วน สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า บริษัทร่วมมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำศึกษาและคิดค้นสูตรเพื่อนำกัญชงมาพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทั้งในส่วนของสกินแคร์ เครื่องดื่ม และอาหารเสริม รวมถึงมีการพูดคุยกับพันธมิตรที่เป็นผู้ปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์ โรงสกัด และผู้ผลิตไว้เรียบร้อยแล้ว

"เรามีความพร้อมทั้งการผลิตและการจำหน่ายในทันทีหลังจากกระทรวงสาธารณสุขประกาศปลดล็อกกัญชงให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด โดยจะจัดจำหน่ายผ่านอาร์เอส มอลล์ แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้า"  สุรชัย กล่าว

ด้าน น.ส.เพ็ญอุไร ไชยชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินและการลงทุน บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF กล่าวว่า บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด (GTH) ซึ่งเป็นผู้นำเข้าเมล็ดกัญชงสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ พัฒนาการปลูกและสกัดกัญชง ตลอดจนการพัฒนาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่มีกัญชงภายใต้แบรนด์ของ GTH การเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ NRF เป็นผู้นำทางการตลาดในอุตสาหกรรมกัญชงในประเทศไทย และจะทำให้มีความสามารถในการแข่งขันทั้งในภาคการส่งออกและอุปโภคบริโภคภายในประเทศ

KWM จับมือพันธมิตรผลิตยา ส่วน PTG ต่อยอด Non-Oil

เอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM ประกาศร่วมมือวิจัยและพัฒนาโครงการเครื่องสกัดสารจากพืชกัญชาและกัญชงกับบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในโครงการการสกัดสารสกัดจากพืชกัญชาและกัญชงเพื่อนำไปสู่การผลิตยาและยาสมุนไพร หลังจากบริษัทได้พัฒนาและผลิตเครื่องสกัดสารจากพืชกัญชาและกัญชงได้เป็นผลสำเร็จแห่งแรกในประเทศไทย

ขณะที่ รังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ระบุว่า ได้เจรจากับพันธมิตรที่ได้ยื่นขอใบอนุญาตทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชง จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว รวมถึงไปถึงขอความร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนเพื่อปลูกกัญชงมารองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยคาดว่าจะสามารถออกผลิตภัณฑ์จากกัญชงเพื่อจัดจำหน่ายได้ในปลายไตรมาส 2-3/64 โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะถูกนำไปวางจำหน่ายในร้านค้าในเครือของบริษัท ทั้งร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่ม เช่น MAX Mart ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ร้านคอฟฟี่เวิลด์ เป็นต้น ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ

TIPCO-TACC ต่อยอดเมนูอาหาร-เครื่องดื่ม

ยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยนำร่องในการพัฒนาสายพันธุ์กัญชาและกัญชง ตั้งแต่ปี 62 ในการวิจัยและพัฒนาจนได้สายพันธุ์ที่มีคุณภาพเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและอาหารที่หลากหลาย และมองเห็นโอกาสที่จะนำมาต่อยอดในธุรกิจ เพื่อเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาและกัญชงให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ รสชาติ และประโยชน์ต่อสุขภาพ

ส่วน ชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าลงทุนถือหุ้นสัดส่วน 30% ในบริษัท ไทยคานาเทคอินโนเวชั่น จำกัด (TCI) เพื่อต่อยอดธุรกิจและแตกไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มอุปโภคบริโภคที่มีส่วนผสมจากกัญชง ซึ่ง TCI มีจุดเด่นในด้านความเชี่ยวชาญในการปลูกและสกัดกัญชงมายาวนานกว่า 10 ปี และได้รับใบอนุญาตในการปลูก สกัด และจำหน่ายเชิงอุตสาหกรรมจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ครบถ้วน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดและความต้องการของผู้บริโภค มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ยา และเวชภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงยังรอใบอนุญาตจาก อย.ในการผลิตและจำหน่ายสินค้าปลายน้ำที่มีส่วนผสมของกัญชง คาดจะได้ข้อสรุปและวางจำหน่ายได้ในครึ่งหลังปีนี้

CBG-OSP-SAPPE รอความพร้อมผลิต

ขณะที่ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความพร้อม โดย บล.หยวนต้า คาดว่า CBG จะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าเครื่องดื่มผสมกัญชง โดยได้พัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์ผสมสาร CBD (Cannabidiol) และ Terpenes (สารให้ความหอม และช่วยในการผ่อนคลาย) เป็นรายแรกๆ ของตลาด โดยรอเพียงผลผลิตกัญชงจากต้นน้ำ และกลางน้ำ รวมถึงกฎหมายอนุญาตจากทางกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น คาดจะได้เห็นผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้อย่างเร็วใน ไตรมาส 3/64

ส่วน บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP บทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า บริษัทมีการศึกษาการใช้กัญชงตั้งแต่ปี 62 ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มและสินค้าของใช้ส่วนบุคคล โดยมีหลายโครงการและมีความพร้อมในการผลิต แต่ยังรอข้อกฎหมายที่มีความชัดเจน ซึ่งอาจเป็นปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ส่วนกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง OSP จะมีการออกสินค้าใหม่เน้นกลุ่มสมุนไพร และเน้นกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ขณะที่ C-Vitt ขยายช่องทางขายทาง Traditional trade มากขึ้น รวมทั้งทดลองขายไปกับ Kerry Express และปีนี้จะมีการออกสินค้าใหม่

สำหรับ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ยอมรับว่ามีความสนใจเกี่ยวกับการปลดล็อกกัญชง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจในส่วนนี้ ทั้งในเรื่องของการสารสกัดซีบีดี (Cannabidiol :CBD) จากเมล็ดกัญชง และส่วนต่างๆ ที่ไม่ใช่ยาเสพติด แต่ต้องศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มและไม่ใช่เครื่องดื่ม

XO ลุยซอสปรุงรสกัญชง-GLOCON ผลิตอาหาร-เครื่องดื่ม

จิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ระบุว่า ได้ทำการศึกษาตลาดและพัฒนาสูตรนำกัญชงมาผลิตซอสปรุงรส จับกระแสตลาดโลก ปัจจุบันสูตรผสมแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ แต่อยู่ระหว่างรอข้อกฎหมายชัดเจน จึงคาดว่าซอสกัญชงจะเข้ามาผลักดันมาร์จิ้นของบริษัทฯ ให้สูงขึ้นได้ และเป็นโอกาสขยายตลาดไปทั่วโลก

ส่วน หลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON นั้นบริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตผลิตสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มจากน้ำมันเมล็ดกัญชง โดยเตรียมสร้างโรงงานและเอกสารเกี่ยวกับการผลิตเพื่อให้คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบ เบื้องต้น มีแผนผลิตอาหารทั้งอาหารพร้อมรับประทาน เครื่องดื่ม และอาหารเสริมจากผลิตภัณฑ์กัญชง คาดว่าการทดสอบจะได้ข้อสรุปในเดือน เม.ย.นี้

PR9-CHAYO แตกไลน์ธุรกิจสู่กัญชง ศึกษาสกัดกัญชง

ด้าน ธีรพันธ์ ดิษยบุตร รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับการสกัดกัญชง-กัญชา ว่าจะมีส่วนไหนนำมาใช้ได้ หรือมีเหตุผลทางวิชาการ หรืองานวิจัยรองรับหากมีข้อมูลที่ชัดเจน และเชื่อถือได้ โรงพยาบาลก็มีความพร้อมแน่นอน

ขณะที่ สุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ DOD เพื่อศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของกัญชงออกมาวางจำหน่ายผ่านช่องทาง Call Center, TV Shoping และ Online คาดได้ข้อสรุปไตรมาส 1/64 และเริ่มผลิตและจำหน่ายได้ภายในช่วงไตรมาส 3/64

ICHI อยู่ระหว่างขอใบอนุญาติผลิต TKN รับสนใจ

ขณะที่ บริษัท อิชิตัน จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ประกาศเป้าหมายปี 2564 บุกเครื่องดื่มกัญชง เตรียมวางจำหน่ายสินค้าใหม่ “อิชิตัน กรีน แลป” เครื่องดื่มเทอร์พีน สารสกัดธรรมชาติที่มีกลิ่นชนิดเดียวกับ CBD ในกัญชงที่มีคุณสมบัติช่วยรีแลกซ์และบรรเทาอาการนอนไม่หลับ โดยจะวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาด หนุนเป้ารายได้รวมปี 64 ที่ 6,200 ล้านบาท โตจากปีก่อน 22%

ปัจจุบัน อิชิตันได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิต (ที่มิใช่การปลูก) เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะได้รับการอนุญาตเป็นรายแรกๆ ในเร็ววันนี้ เพื่อที่ว่าเมื่อกฎหมายรองรับอย่างเป็นทางการ อิชิตัน จะมีความพร้อม ในการเข้าทำตลาดเครื่องดื่ม CBD ทันที

ส่วน อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เผยว่า การทำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกัญชง บริษัทมีความสนใจและจะบุกเบิกตลาดดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ล่าสุดยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการนำส่วนผสมกัญชงมาผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น อาหารเสริม อาหารกระป๋อง โดยได้มีการทดลองนำไปทำเป็นทูน่ากระป๋องในน้ำมันกัญชงที่มีโอเมก้า 3 และโปรตีนจากกัญชง และอื่นๆ เพื่อขยายไลน์สินค้าเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะมีการออกสินค้าในกลุ่มกัญชงต่อไป

เรียกว่าธุรกิจกัญชงกำลังเป็น Sun Rise อย่างแท้จริง เพราะถือเป็นโอกาสที่จะสามารถสร้างรายได้ในอนาคตได้อย่างงดงาม และน่าจะเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล อีกทั้งถือเป็นเรื่องใหม่ในการลงตลาดให้แก่ผู้บริโภค ดังนั้น คงไม่มีเพียงแค่ บจ. ที่ประกาศเปิดตัวตอนนี้ และเชื่อว่าภายในปีนี้ยังน่าจะมี บจ.อีกหลายบริษัทเปิดตัวเพื่อทำธุรกิจกัญชงอีกอย่างแน่นอน




กำลังโหลดความคิดเห็น