ศักดิ์สยามลิสซิ่ง ปิดเทรดวันแรกที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 121.62% จากราคาไอพีโอที่จองซื้อ 3.70 บาท ผู้บริหาร SAK มั่นใจหุ้นได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายสาขาและลงทุนตามแผน โบรกฯ มอง SAK ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกจากแผนขยายสาขาในอนาคต ให้มูลค่าหุ้นที่เหมาะสมปี 64ที่ 4.3-4.6 บาท
หุ้นของ บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง หรือ SAK เปิดการซื้อขายวันแรกพบว่าเมื่อเปิดตลาด ราคาหุ้นเทรดที่ 7.05 บาท เพิ่มขึ้น 3.35 บาท หรือบวก 90.54% ราคาขาย IPO 3.70 บาท/หุ้น และปิดเทรดช่วงเช้าที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.55 บาท หรือ 95.95% จากราคาขาย IPO ที่ 3.70 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3,072.57 ล้านบาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 8.20 บาท ต่ำสุดที่ 6.75 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาทหรือ 121.62% มูลค่าซื้อขาย 4,750.89 ล้านบาท
บล.ทิสโก้ มีมุมมองเป็นบวกสำหรับ SAK จากราคา IPO ของ SAK อยู่ในระดับที่เหมาะสม และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกจากแผนขยายสาขาในอนาคตจาก 519 สาขา เป็น 1.12 พันสาขา สำหรับ SAWAD และ MTC ณ สิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีสาขาอยู่ที่ประมาณ 4.8 พันสาขา จึงให้มูลค่าที่เหมาะสมปี 2021F ที่ 4.3-4.6 บาท คิดเป็น PER ที่ 15.4-16.5 เท่า และ PBV ที่ 1.66-1.77 เท่า เทียบกับ MTC และ SAWAD ที่มี PER 21 เท่า และ 18.4 เท่า ตามลำดับ ทำให้ ณ ระดับราคา IPO ที่ 3.70 บาท คิดเป็น PER ที่ 13.3 เท่าสำหรับปี 2021F เป็นราคาที่ไม่แพง
นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ SAK เปิดเผยว่า เชื่อมั่นว่าหุ้น SAK จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดย SAK มีเป้าหมายสร้างการเติบโตในทุกมิติภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2566 พอร์ตสินเชื่อจะขยายตัวเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท จากการขยายสาขาและขยายพอร์ตสินเชื่อตามแผนการใช้เงินจาก IPO และการนำเทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและยกระดับการให้บริการสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว โดยช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก และควบคุมความเสี่ยงเรื่องคุณภาพของสินเชื่อด้วย