ตลาดหุ้นปิดฉาก 10 เดือนแรกปีนี้ไปแล้วที่ระดับ 1,194.95 จุด ลดลง 384.89 จุด หรือลดลง 24.36% เมื่อเทียบกับจุดปิดสิ้นปี 2562 ที่ระดับ 1,579.84 จุด ส่วนช่วง 2 เดือนสุดท้ายที่เหลือ ไม่อาจคาดหมายได้ว่า หุ้นจะเคลื่อนไหวในทิศทางไหน และมีโอกาสจะฟื้นขึ้นหรือไม่
ดัชนีหุ้นหลุดจากแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,200 จุดลงมาแล้ว และนักลงทุนกำลังมองแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,150 จุด เพราะข่าวร้ายยังกระหน่ำไม่หยุดหย่อน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับสู่ช่วงขาลงอีกครั้ง โดยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทรุดลงม้วนเดียวรวมประมาณ 2,000 จุด
ส่วนม็อบคณะราษฎรยังเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลในผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองที่วุ่นวายและยืดเยื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดิ่งลง เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังควบคุมไม่ได้ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด ล่าสุด ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งกว่า 46.2 ล้านคนแล้ว
แม้ประเทศไทยจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี แต่ เมื่อหลายประเทศยังควบคุมไม่ได้ เศรษฐกิจโลกจะถูกกระทบอย่างหนัก รวมถึงเศรษฐกิจไทยที่จะซบเซา เพราะการส่งออกและการท่องเที่ยวจะฟุบยาว
นักลงทุนต่างชาติไม่มีสัญญาณจะกลับมา โดยปักหลักขายหุ้นทิ้งอย่างเดียว ยอดขายหุ้นสุทธิสะสมจากต้นปีมีจำนวนทั้งสิ้น 299,550.21 ล้านบาท และปีนี้คงขายทะลุ 3 แสนล้านบาท ซึ่ง จะเป็นสถิติใหม่ที่นักลงทุนต่างชาติถล่มขายมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนนักลงทุนรายย่อยสู้ไม่ถอยเหมือนกัน ซื้อหุ้นแลกหมัดกับฝรั่ง โดยมียอดซื้อหุ้นสุทธิสะสมจำนวน 240,290.70 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ประเมินว่า ราคาหุ้นสะท้อนรับข่าวร้ายไปมากแล้ว และปัจจัยพื้นฐานหุ้นมีความแข็งแกร่งขึ้น จึงไม่น่าจะปรับฐานลงอีกมากนัก โดยเริ่มแนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อหุ้นเก็บ แถวดัชนีระดับ 1,200 จุด
ยิ่งหลุดระดับ 1,200 จุดลงมา ยิ่งน่าช้อนเก็บ
โบรกเกอร์หลายแห่ง หรือแม้แต่ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบางคนยังมีมุมมองในแง่ดี โดยประเมินว่า สิ้นปีนี้ดัชนีหุ้นมีโอกาสเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,300 จุด
แต่ระยะสั้น หรือวันต่อวัน ตลาดขาดแคลนข่าวดีจริงๆ มีแต่ข่าวร้ายๆ ที่จะฉุดให้ดัชนีหุ้นดิ่งลง และนักลงทุนอาจถอยไปตั้งรับที่ระดับ 1,150 จุดก็ได้
ปัจจัยลบที่ครอบงำตลาดหุ้นจนสลัดไม่หลุดคือ ความกังวลการแพร่ระบาดของเชื่อ “โควิด-19” และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ซึ่งบั่นทอนความน่าสนใจหุ้น แม้ราคาจะต่ำมากก็ตาม แต่ความเสี่ยงในการปรับฐานลงต่อ ทำให้นักลงทุนไม่ผลีผลามเข้ามาไล่ซื้อหุ้น
เพราะเห็นว่ามีโอกาสซื้อหุ้นในต้นทุนที่ถูกลง โดยไม่ต้องกลัวเสียจังหวะลงทุน เพราะในระยะสั้นไม่มีปัจจัยที่จะกระตุ้นให้หุ้นกลับสู่ช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะการเด้งขึ้นแรงๆ
ดัชนีหุ้นซึมลงมาระยะหนึ่งแล้ว และมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อ ส่วนนักลงทุนรายย่อยเก็บหุ้นจนเต็มพอร์ต แต่ ยิ่งช้อนซื้อ ยิ่งเจ็บ จนเริ่มท้อกันบ้าง
ถ้าไม่มั่นใจว่า หุ้นลงมาถูกจริงๆ คงยืนสังเกตการณ์ไปพลางๆ ก่อน เพราะประเมินจากสถานการณ์แวดล้อมแล้ว รอบนี้มีโอกาสได้เห็นตัวเลข 1,150 จุด