ผู้จัดการรายวัน360–ม็อบไล่นายกฯ ถล่มตลาดหุ้นไทยหนัก ติดลบเกือบ 25 จุด ปิดที่ 1,208.75 จุด สวนทางตลาดหุ้นเอเชียที่บวกกันถ้วนหน้า หลังนักลงทุนตื่นตระหนกขายทิ้ง หวั่นสถานการณ์ยืดเยื้อ นักวิเคราะห์ประเมินม็อบรุนแรง ยืดเยื้อ กดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้หลุด 1,200 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (19 ต.ค.) ยังถูกปกคลุมด้วยปัจจัยลบภายในประเทศเป็นหลัก คือ การชุมชุมประท้องขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่เริ่มส่อแววยืดเยื้อและเวลายาวนาน สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะพยามแก้ปัญหาด้วยการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกของประเทศ โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายภาคเช้า และเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน แตะระดับต่ำสุดที่ 1,205.61 จุด สูงสุดที่ 1,223.15 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,208.75 จุด ลดลง 24.93 จุด หรือคิดเป็น 2.02% มูลค่าการซื้อขายรวม 54,008.12 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 310.01 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 3,710.10 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 877.10 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 2,522.98 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดหุ้นไทย เช่น ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเคอิ ปิดที่ 23,671.13 จุด เพิ่มขึ้น 260.50 จุด หรือคิดเป็น 1.11% ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,229.4 จุด เพิ่มขึ้น 52.6 จุด หรือ 0.85% ดัชนี ALL ORDINARIES ปิดที่ 6,435.60 จุด เพิ่มขึ้น 50.60 จุด หรือ 0.79% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิต KOSPI ปิดที่ 2,346.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ 0.22% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 24,542.26 จุด เพิ่มขึ้น 155.47 จุด หรือ 0.64% ยกเว้นเพียงตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลดลง โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 3,312.67จุด ลดลง 23.69 จุด หรือลดลง 0.71%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก คือ เรื่องของสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ และการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หากสถานการณ์ทางการเมืองทวีความรุนแรง มีกลุ่มผู้ออกมาต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น และยังคงยืดเยื้อออกไป อาจฉุดให้ดัชนีลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,200 จุดได้
สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ แนะนำนักลงทุนเน้นซื้อหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสาร ที่ได้ประโยชน์จากช่วงที่มีการชุมนุม หุ้นกลุ่มยานยนต์ ที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของตลาดยุโรปและจีน และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินว่า แนวโน้มการซื้อขายวันนี้ หากดัชนีปรับลงมาใกล้บริเวณแนวรับสำคัญที่ 1,200 จุด ก็อาจจะเห็นการรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ แต่คงไม่ไกลมากนัก เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศอยู่ พร้อมมองแนวรับที่ 1,200 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,220 และ 1,225 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (19 ต.ค.) ยังถูกปกคลุมด้วยปัจจัยลบภายในประเทศเป็นหลัก คือ การชุมชุมประท้องขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่เริ่มส่อแววยืดเยื้อและเวลายาวนาน สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะพยามแก้ปัญหาด้วยการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกของประเทศ โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายภาคเช้า และเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน แตะระดับต่ำสุดที่ 1,205.61 จุด สูงสุดที่ 1,223.15 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,208.75 จุด ลดลง 24.93 จุด หรือคิดเป็น 2.02% มูลค่าการซื้อขายรวม 54,008.12 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 310.01 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 3,710.10 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 877.10 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 2,522.98 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดหุ้นไทย เช่น ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเคอิ ปิดที่ 23,671.13 จุด เพิ่มขึ้น 260.50 จุด หรือคิดเป็น 1.11% ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,229.4 จุด เพิ่มขึ้น 52.6 จุด หรือ 0.85% ดัชนี ALL ORDINARIES ปิดที่ 6,435.60 จุด เพิ่มขึ้น 50.60 จุด หรือ 0.79% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิต KOSPI ปิดที่ 2,346.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ 0.22% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 24,542.26 จุด เพิ่มขึ้น 155.47 จุด หรือ 0.64% ยกเว้นเพียงตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลดลง โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 3,312.67จุด ลดลง 23.69 จุด หรือลดลง 0.71%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก คือ เรื่องของสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ และการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หากสถานการณ์ทางการเมืองทวีความรุนแรง มีกลุ่มผู้ออกมาต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น และยังคงยืดเยื้อออกไป อาจฉุดให้ดัชนีลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,200 จุดได้
สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ แนะนำนักลงทุนเน้นซื้อหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสาร ที่ได้ประโยชน์จากช่วงที่มีการชุมนุม หุ้นกลุ่มยานยนต์ ที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของตลาดยุโรปและจีน และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินว่า แนวโน้มการซื้อขายวันนี้ หากดัชนีปรับลงมาใกล้บริเวณแนวรับสำคัญที่ 1,200 จุด ก็อาจจะเห็นการรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ แต่คงไม่ไกลมากนัก เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศอยู่ พร้อมมองแนวรับที่ 1,200 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,220 และ 1,225 จุด