นายประภาส ตันติพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด เปิดเผยภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า บลจ.ทาลิสยังคงแนะนำการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก เนื่องจากหลายบริษัทมีแนวโน้มฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และตราบใดที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ หรือนักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับมาซื้อหุ้นไทย การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่จะมีความเสี่ยงจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติมากกว่า ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กมี Performance ที่ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เมื่อพิจารณาจาก Index โดยดัชนีราคา sSET ซึ่งเป็นดัชนีราคาหุ้นขนาดเล็กปรับตัวขึ้นถึง 45.95% นับจาก SET Index ปรับตัวลดลงจนถึงจุดต่ำสุดที่ 1,044 จุด (19 มี.ค. 63-30 ก.ย. 63) เปรียบเทียบกับดัชนี SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 18.47% และดัชนี SET50 ที่ปรับตัวขึ้น 12.87% (ที่มา: www.settrade.com)
“คาดว่าปีหน้าหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กยังคงเติบโต มีหลายบริษัทยังเติบโตได้ดี เพียงแต่ต้องเลือกหุ้นเพราะบางตัวราคาไม่ถูกแล้ว ปรับตัวขึ้นกันมาพอสมควร เพราะฉะนั้นจึงต้องคัดเลือกคัดสรรไปเรื่อยๆ” นายประภาสกล่าว
สำหรับ บลจ.ทาลิสมีกองทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ดังกล่าว ได้แก่ กองทุนเปิดทาลิส Mid/Small Cap หุ้นทุน (TLMSEQ) ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถสร้างผลดำเนินงานที่โดดเด่น โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 มีอัตราผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 3.83% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.03% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 60.69% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 0.01% และสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน sSET Index ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ -4.57% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.03% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 45.03% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -12.06%
นายประภาสกล่าวว่า ผลงานที่โดดเด่นมาจากคัดเลือกลงทุนรายหลักทรัพย์ (Stock Selection) เพราะหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กมีอยู่จำนวนมาก บลจ.ทาลิสเน้นการเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยอาจจะเป็นบริษัทที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากโควิด-19 ไม่มากและฟื้นตัวได้เร็ว หรือบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือบริษัทที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์โควิด-19
ทั้งนี้ กลยุทธ์การรักษาผลตอบแทนที่ดีระยะยาว มองว่าวัคซีนโควิด-19 คงจะพัฒนาสำเร็จและสามารถใช้ได้ในปีนี้หรือปีหน้า ดังนั้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเร็ว บลจ.ทาลิสเลือกลงทุนในบริษัทที่สามารถที่จะสร้างรายได้ หรือผลกำไรที่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากเศรษฐกิจรอบใหม่ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลงทุนของหุ้นหรือบริษัทต่างๆ และยังหลีกเลี่ยงในการลงทุนสำหรับธุรกิจไหนที่จะลุ้นว่าจะกลับมาจากขาดทุนเป็นกำไรเมื่อไร หรือผลประกอบการจะสร้างกำไรจะฟื้นได้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ยังมีการติดตามหุ้นกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
กองทุน TLMSEQ มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน