นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขาย กองทุนมั่ง มี ศรี สุข เพื่อการเลี้ยงชีพ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 27 ตุลาคม 2563 เน้นการลงทุนโดยการจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) ในหลายสินทรัพย์ทั่วโลก ผ่าน Fund of Funds ภายใต้บริษัทจัดการกองทุน โดยมีกลยุทธ์การลงทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) ดัชนีชี้วัดของกองทุนมั่ง มี ศรี สุข เพื่อการเลี้ยงชีพ คือ 3% ต่อปี 5% ต่อปี 7% ต่อปี และ 9% ต่อปี* ตามลำดับ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง และไม่มีเวลาติดตามการลงทุน และอยากได้รับผลตอบแทนสอดคล้องกับความเสี่ยงที่รับได้ในระยะยาว
กองทุนมั่ง มี ศรี สุข เพื่อการเลี้ยงชีพ ประกอบด้วย 4 กองทุนที่เน้นการกระจายน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะสมกับวัฏจักรเศรษฐกิจระยะยาวในแต่ละช่วงเวลาและความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ (Strategic Asset Allocation) ในขณะเดียวกัน ผู้จัดการกองทุนก็สามารถเพิ่มหรือลดน้ำหนักสินทรัพย์ได้ตามความเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดที่อาจจะมีความผันผวนสูงได้ในระยะสั้น (Dynamic Tactical Asset Allocation)
กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTMUNG-RMF) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ประมาณการสัดส่วนการลงทุนเน้นตราสารทุน 75% ตราสารหนี้สัดส่วน 15% ตราสารทางเลือก 10%
กองทุนเปิดกรุงไทยมีทรัพย์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTMEE-RMF) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ตั้งแต่ปานกลางถึงสูง มีประมาณการสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน 50% ตราสารหนี้สัดส่วน 40% ตราสารทางเลือก 10%
กองทุนเปิดกรุงไทยศรีสิริ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTSRI-RMF) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยถึงปานกลาง มีประมาณการสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ 65% ตราสารทุน 25% ตราสารทางเลือก 10%
กองทุนเปิดกรุงไทยสุขใจ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTSUK-RMF) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ความผันผวนน้อย มีประมาณการสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ 80% ตราสารทุน 10% และตราสารทางเลือก 10%
นางชวินดากล่าวเสริมว่า กลุ่มกองทุนมั่งมีศรีสุข เพื่อการเลี้ยงชีพ นี้เหมาะต่อสภาวการณ์ตลาด ณ ปัจจุบัน เพราะแนวโน้มผลตอบแทนจากดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกนาน รวมถึงความผันผวนของตลาดหรือสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกก็มีความผันผวนที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้นักลงทุนต้องคอยติดตามวางแผนการลงทุนที่ยากขึ้นตามภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมองว่าการเลือกลงทุนในกลุ่มกองทุนดังกล่าวจะสามารถช่วยนักลงทุนได้ โดยนักลงทุนสามารถที่จะเลือกตามระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนคาดหวังตามที่ต้องการ เพื่อให้เหมาะต่อแผนทางการเงินในอนาคตได้สะดวกมากขึ้น ทำให้ผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามการลงทุน และไม่ต้องการปรับพอร์ตบ่อยๆ เพราะกลุ่มกองทุนนี้จะมีการติดตามและกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสมให้แก่ผู้ถือหน่วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือได้ว่ากองทุน “มั่ง มี ศรี สุข เพื่อการเลี้ยงชีพ” นี้สามารถตอบโจทย์ที่ต้องการได้เป็นอย่างดี