การใช้ข้อมูลภายในแสวงหาประโยชน์จากการซื้อขายหุ้น หรือ อินไซเดอร์เทรดดิ้ง ทำให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนหลายต่อหลายแห่งต้องตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ และถูกประณามถึงพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป แต่คดีอินไซเดอร์ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุด ก.ล.ต.ได้ประกาศดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง ผู้ที่ใช้ข้อมูลภายใน ขายหุ้นบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยปรับเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 33.17 ล้านบาท ซึ่งหากผู้กระทำผิดไม่ยอมชำระค่าปรับ จะทำหนังสือให้อัยการฟ้อง และขอให้ศาลสั่งลงโทษในอัตราสูงสุด
สำหรับผู้ที่ใช้ข้อมูลภายในประกอบด้วย นายอภิชาต สุขจิรวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการเงินและบัญชี ICHI โดยรู้ว่าผลประกอบการของบริษัทปี 2559 มีกำไรลดลง จึงขายหุ้นจำนวน 3.52 ล้านหุ้นออก เพื่อหลีกเลี่ยงผลขาดทุน
นางอิง ภาสกรนที รองกรรมการผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ภรรยานายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการบริหาร ซึ่งรู้ข้อมูลผลดำเนินงานปี 2559 และนำข้อมูลเปิดเผยแก่ น.ส.สุภาณี สุขพันธุ์ถาวร พี่สาว และช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกพี่สาวที่ได้ขายหุ้นจำนวน 10.26 ล้านหุ้น ทำให้ได้ประโยชน์จากการหลีกเลี่ยงผลขาดทุน
ICHI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 21 เมษายน 2557 หลังนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรกในราคา 13 บาท จากพาร์เพียง 1 บาท ทั้งที่ก่อตั้งเพียงไม่กี่ปี
และแม้เสนอขายหุ้นในราคาที่สูง แต่นักลงทุนจองซื้อกันเกลี้ยง และ เมื่อเข้าตลาดหุ้น เกิดการเก็งกำไรกันคึกคัก เพราะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ถึงตลาดเครื่องดื่มชาเขียวกันอย่างครึกโครม รวมทั้งแผนการส่งเสริมการขายในลักษณะชิงโชค จนถูกเรียกว่า “หวยชาเขียว” กันอยู่พักหนึ่ง
ราคาหุ้น ICHI พุ่งขึ้นทะลุ 30 บาท เพราะการเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนถูกทำให้เชื่อว่า ตลาดชาเขียวจะเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งการบุกตลาดต่างประเทศ
แต่ ICHI รุ่งได้ไม่นาน หลังผลประกอบการปี 2559 ไม่สดใส ราคาหุ้นเริ่มอ่อนตัวลง และผลประกอบการปี 2561 ย่ำแย่หนัก เหลือกำไรสุทธิเพียง 43.84 ล้านบาท ราคาหุ้นจึงร่วงลงต่อเนื่อง จนเหลือเพียง 3 บาทเศษ ก่อนที่จะเริ่มกระเตื้องขึ้น และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาปิดที่ 10.90 บาท
หุ้นที่ดีดขึ้นมาน่าจะเกิดจากความคาดหมายผลประกอบการปีนี้จะเติบโตขึ้นจากปีก่อน โดยงวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 308.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 250.99 ล้านบาท
กลุ่มนายตัน ถือหุ้นใหญ่ใน ICHI ประมาณ 55% ของทุนจดทะเบียน มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 13,178 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 41.89% ของทุนจดทะเบียน และส่วนใหญ่น่าจะติดหุ้นต้นทุนสูง
การที่ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ใช้ข้อมูลภายในขายหุ้นออกก่อนที่งบการเงินจะประกาศเผยแพร่ เป็นการเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป นอกจากจะทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ "กลุ่มภาสกรนที" และบริษัทแล้ว ยังจะถูกมาตรการต่อต้านจากนักลงทุนสถาบันด้วย
เพราะบริษัทจดทะเบียนที่มีพฤติกรรมอินไซด์ เข้าข่ายไม่มีธรรมาภิบาล กองทุนรวมและนักลงทุนสถาบันจะไม่ลงทุนเพิ่มหรืออาจทยอยถอนการลงทุนออก
หุ้น ICHI เพิ่งกลับมาสู่ความคึกคักได้หลายเดือนแล้ว หลังจากรูดลงไปสู่ก้นเหว แต่การที่ผู้บริหารบริษัทเล่นอินไซด์ คงทำให้ความน่าสนใจหุ้นตัวนี้ลดลง
เพราะไม่มีใครอยากเล่นหุ้นที่มี เจ้ามือจ้องเอาเปรียบ หาเศษหาเลยกับราคาหุ้น ทั้งที่ร่ำรวยเหลือเฟืออยู่แล้ว