ตลาดหุ้นเพิ่งจะกลับสู่ช่วงขาขึ้น จนนักลงทุนฝันว่า รอบนี้อาจได้เห็นดัชนีหุ้นพุ่งทะลุ 1,300 จุด แต่ ฝันต้องสลาย เพราะสถานการณ์ทางการเมืองกำลังเป็นปัจจัยลบที่ถล่มหุ้นจนทรุดหนัก
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ประเมินว่า การชุมนุมใหญ่ของม็อบคณะราษฎร จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก เช่นเดียวกับการชุมนุมใหญ่ของม็อบเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
แต่การชุมนุมใหญ่ของม็อบคณะราษฎรเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้จำนวนผู้ชุมนุมจะน้อยกว่า แต่กลับมีเหตุการณ์ความรุนแรงมากกว่า เพราะนอกเหนือจากการปะทะกับฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลในหลายจุดแล้ว ยังมีเหตุการณ์ขบวนเสด็จเข้ามาแทรกซ้อนด้วย จนนำไปสู่การสลายการชุมนุม และจับกุมแกนนำม็อบ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง แม้จะมีการปลุกระดมต่อต้านม็อบคณะราษฎร แต่การชุมนุมที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมก็ยังดำเนินต่อไป ท่ามกลางผู้ร่วมชุมนุมที่หนาตา โดยมีนักเรียนเข้าร่วมจำนวนมาก
ม็อบที่คิดว่าจะคุมอยู่ ปรากฏว่าคุมไม่อยู่ และการชุมนุมอาจดำเนินต่อไป จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งไม่อาจคาดหมายได้ว่า สถานการณ์การเมืองจะมีพัฒนาการไปในทางใดจนจบ และกลับสู่ความสงบในรูปแบบใด
ตลาดหุ้นวันที่ 15 ตุลาคม ซึมซับรับข่าวม็อบและความไม่แน่นอนทางการเมืองโดยตรง ดัชนีหุ้นทรุดลง 21.03 จุด ถอยลงมาปิดที่ 1,242.96 จุด โดยนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนในประเทศเทขายหุ้น 2,114.86 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติถล่มขายอีก 1,739.51 ล้านบาท
ต่างชาติกำลังสร้างสถิติใหม่ เทขายหุ้นออกมามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยยอดขายหุ้นสะสมสุทธิตั้งแต่ต้นปีพุ่งขึ้นกว่า 2.89 ล้านบาท และเป็นกลุ่มที่เสียหายกับการทรุดตัวของตลาดหุ้นน้อยที่สุด เพราะระบายหุ้นออกมาตลอด
ส่วนนักลงทุนรายย่อยปีนี้เจ็บหนัก เพราะซื้อหุ้นเก็บสะสมตั้งแต่ต้นปี โดยมียอดซื้อหุ้นสุทธิรวมทั้งสิ้น 2.17 แสนล้านบาท
ตลาดหุ้นกำลังถูกปกคลุมด้วยสถานการณ์การเมืองอีกครั้ง และเป็นสถานการณ์การเมืองที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย ไม่มีใครบอกได้ว่า ม็อบคณะราษฎรที่กำลังถูกจุดติด จะจบอย่างไร จะมีเหตุการณ์ความรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออกซ้ำรอยอดีตหรือไม่
และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรอดหรือเปล่า
ดัชนีหุ้นที่ดิ่งฮวบกว่า 21 จุด เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เกิดจากความหวั่นไหวในสถานการณ์ทางการเมือง โดยนักลงทุนสถาบันและต่างชาติชิงลดความเสี่ยง ขายหุ้นทิ้ง เพราะประเมินว่าตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของม็อบคณะราษฎรอีกระยะหนึ่ง
ซึ่งไม่อาจคาดได้ว่า จะยืดเยื้อยาวนานขนาดไหน แนวรับระดับ 1,250 จุด หลุดลงมาแล้ว โดยแนวรับต่อไปมองกันที่ระดับ 1,200 จุด ซึ่งทำท่าจะลงมาแตะหลายครั้งแล้ว แต่ดีดกลับทุกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่า ดัชนีหุ้น 1,200 จุดจะรับอยู่หรือไม่
เพราะการเมืองกำลังเดินเข้าสู่จุดแตกหักอย่างหนีไม่พ้น และในภาวะสับสนอลหม่านทางการเมือง ทฤษฎีอะไรก็ใช้คำนวณราคาหุ้นไม่ได้
นักลงทุนที่ระมัดระวังความเสี่ยง เลือกที่จะถอยห่างจากตลาดหุ้นชั่วคราว ออกไปสังเกตการณ์อยู่รอบนอก จนกว่าม็อบจะจบ หรือสถานการณ์การเมืองสงบ
ราคาหุ้นขณะนี้ลงมาต่ำจนยั่วยวนให้ซื้อเก็บจริงๆ แต่ม็อบที่กำลังเติบใหญ่และลุกลามขยายวง มีสิทธิฉุดดัชนีหุ้นให้รูดลงสู่ระดับ 1,200 จุดได้ จะรีบร้อนช้อนหุ้นเปิดโอกาสให้ฝรั่งขายของแพงทำไม