หุ้นน้องใหม่ที่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันแรกที่เคาะซื้อขาย แทบทั้งหมดให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนที่จองซื้อ และหลายตัวราคาสูงกว่าจองนับ 100% เพิ่งจะมี หุ้นบริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO เท่านั้นที่เข้ามาวันแรก ราคารูดต่ำกว่าจองเสียแล้ว
SO นำหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 85 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 6.50 บาท จากราคาพาร์ 1 บาท โดยในสรุปข้อสนเทศบริษัท ไม่มีข้อมูลสัดส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นหรือค่าพี/อี เรโช เหมือนหุ้นน้องใหม่ตัวอื่นๆ
บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งไม่มีผลงานการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยหุ้นเสนอขายระหว่างวันที่ 3-7 ตุลาคมที่ผ่านมา
SO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในกลุ่มบริการเฉพาะกิจ โดยเป็นผู้ให้บริการจัดหาบุคลากร ดำเนินธุรกิจให้เช่าและบริการ ทั้งรถยนต์และอสังหาริมทรัพย์ โดยงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 58.99 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 109.06 ล้านบาท
โครงสร้างผู้ถือหุ้นประกอบด้วย กลุ่มวิมลเฉลา ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนประมาณ 70% ของทุนจดทะเบียน โดย มีนักลงทุนขาใหญ่ เสี่ยปู่ หรือนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ถือหุ้นในสัดส่วน 1%
หุ้น SO ประเดิมซื้อขายวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดที่ราคา 6.70 บาท และขึ้นไปสูงสุดที่ 7.05 บาท ก่อนจะทรุดลงมาปิดที่ 6.40 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุด ต่ำกว่าจอง 10 สตางค์ หรือต่ำกว่าจอง 1.54% และ กลายเป็นหุ้นใหม่ตัวแรกที่เข้ามาซื้อขายหลังวิกฤต "โควิด-19" หรือเป็นหุ้นใหม่ตัวแรกที่เข้ามาซื้อขายในครึ่งปีหลัง และราคาต่ำกว่าจอง
นักลงทุนที่อ่านบทวิเคราะห์หุ้น SO ของโบรกเกอร์หลายแห่ง คงไม่แปลกใจที่หุ้นน้องใหม่ตัวนี้ไม่เป็นที่สนใจมากนัก และนักเก็งกำไรไม่กล้าไล่ราคา เพราะบทวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่ได้ประเมินแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทดีนัก
และโบรกเกอร์ 2 แห่ง ประมาณการราคาเป้าหมาย SO ในตัวเลขเดียว เหมือนกับนัดกันไว้ โดยให้ราคาเพียง 7 บาทเท่านั้น และเป็นราคาเป้าหมายใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าราคาจองเพียงหุ้นละ 50 สตางค์เท่านั้น
การซื้อขายวันแรก SO จึงไม่สามารถทะลุราคา 7 บาทขึ้นไปได้
ผลกระทบจากวิกฤต “โควิด-19” และเศรษฐกิจที่ทรุดหนัก จะทำให้ความต้องการบุคลากรลดลง ขณะที่ธุรกิจให้เช่ารถยนต์และอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันสูง และอาจทำให้รายได้ของ SO เติบโต ธุรกิจของบริษัทจึงไม่โดดเด่น
หุ้นที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 6.50 บาท อาจเป็นราคาที่สูงเต็มมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน และไม่เปิดช่องให้ผู้จองซื้อทำกำไรได้มากนัก
นักเก็งกำไรก็คงเห็นความเสี่ยง จึงไม่กล้าลุยไล่ราคาหุ้นหุ้นน้องใหม่ตัวก่อนหน้า ทำให้ราคาหุ้นที่ประเดิมซื้อขายวันแรกไม่ร้อนแรง โดยขึ้นไปสูงสุดเพียง 7.05 บาท สูงกว่าราคาจองไม่ถึง10% ก่อนจะถูกทุบขายลงมาต่ำกว่าจอง
SO จะเป็นหุ้นที่บั่นทอนความฮึกเหิมของนักลงทุนในการเก็งกำไรหุ้นน้องใหม่ เพราะ SO สะท้อนให้เห็นแล้วว่า
หุ้นน้องใหม่ ไม่ได้ดีทุกตัว ไม่ได้สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้ผู้ที่จองซื้อทุกตัว และบางตัวจองแล้วมีสิทธิเจ๊งได้ตั้งแต่วันแรกที่หุ้นเขาซื้อขาย
สิ้นปีนี้ยังมีหุ้นน้องใหม่อีกหลายตัวที่รอคิวเข้าซื้อขาย จึงต้อง พิถีพิถันตั้งแต่การจองซื้อและการเก็งกำไร เมื่อหุ้นเข้ามาซื้อขาย เพื่อป้องกันการเจ็บตัวจากหุ้นใหม่