หุ้น บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ประเดิมซื้อขายวันแรก (8 ก.ย.) แม้จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้นักลงทุนที่จองซื้อ แต่ก็ ทำให้นักลงทุนที่แห่เข้าไปเก็งกำไรต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวตามๆ กัน เพราะสิ้นสุดวันปิดการซื้อขายในราคาที่ต่ำสุด
SCM เป็นธุรกิจขายตรงรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สินค้าอุปโภคบริโภค ในลักษณะธุรกิจเครือข่าย โดยนำหุ้น จำนวน 150 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 50 สตางค์ เสนอขายในราคาหุ้นละ 1.90 บาท บนค่าพี/อี เรโช ประมาณ 13.86 เท่า ซึ่งถือว่าไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับค่า พี/อี เรโช เฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์
หุ้นเปิดการซื้อขายที่ราคา 2.86 บาท ก่อนจะถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 3.22 บาท หลังจากนั้นถูกเทขายทำกำไรจนราคาอ่อนตัวลง และปิดตลาดที่ราคา 2.46 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดของวัน แต่สูงกว่าราคาจอง 56 สตางค์ หรือสูงกว่าจอง 29.47%
นักลงทุนที่ได้โควตาจองหุ้น SCM น่าจะพอใจกับผลตอบแทนจากหุ้นน้องใหม่ตัวนี้ เพราะถ้าตัดสินใจขายในวันแรกได้กำไรดีในทุกราคา หรือหากยังไม่ขาย ก็มีเวลาที่จะขายทัน เพราะวันที่ 2 ราคาหุ้นคงไม่รูดแรงจนหลุดจอง
แต่สำหรับนักลงทุนที่แห่เข้าไปเก็งกำไร SCM ในวันแรก ถ้าชิงขายทำกำไรไม่ทัน และยังถือหุ้นติดมืออยู่ ขาดทุนกันถ้วนหน้า เพียงแต่ขาดทุนมากหรือน้อยเท่านั้น
SCM เป็นหุ้นน้องใหม่ตัวที่ 5 ที่เข้ามาซื้อขายหลังวิกฤตโควิด-19 และอยู่ระหว่างการถูกจับจ้องว่า จะเป็นน้องใหม่ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีคงเส้นคงวา หรือเป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีความผันผวนสูง โดยทำท่าจะดีเพียงวันแรก วันที่ 2 ก็หลุดจอง เหมือนหุ้นบริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ซึ่งปัจจุบันยังต่ำกว่าจองหรือไม่
ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้ของ SCM ตัวเลขออกมาไม่ดีนัก โดยมีรายได้รวม 417.77 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19.73 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 มีรายได้รวม 1,100.76 ล้านบาท โดยรายได้ครึ่งปีแรกที่ลดลง เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ถ้าผลประกอบการในครึ่งปีหลังชะลอตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จะส่งผลให้ค่าพี/อี เรโชของ SCM สูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงทิศทางราคาหุ้น
การซื้อขายวันแรกเพียงวันเดียวไม่อาจชี้ชัดได้ว่า แนวโน้มราคาหุ้น SCM จะเป็นอย่างไร และไม่มีหลักประกันว่า จะไม่มีโอกาสหลุดจองหรือไม่ เพราะวันแรกเคาะซื้อเก็งกำไรกันสนั่นหวั่นไหว
ปริมาณการซื้อขายจำนวนทั้งสิ้น 458 ล้านหุ้น หรือกว่า 3 เท่าตัวของจำนวนหุ้นที่นำเสนอขายนักลงทุน และกว่า 75% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยไม่รู้ว่าจะมีรายการ "ทุบขาย" ของนักลงทุนรายใหญ่เหมือนหุ้น SICT หรือไม่
ช่วงวันแรกๆ ของการซื้อขายหุ้นใหม่ ฐานราคาหุ้นมักจะไม่นิ่ง เช่นเดียวกับหุ้น SCM ซึ่งต้องเฝ้าดูต่อไปว่า ฐานราคาในจุดใดจึงเริ่มนิ่ง
และจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถยืนเหนือจองได้อย่างมั่นคง หรือยืนเหนือจองได้เพราะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาดันราคาเฉพาะวันแรกๆ เท่านั้น
นักเก็งกำไรที่แห่เข้าไปเก็งกำไร SCM ในวันแรก และติดดอยอยู่ ตอนนี้ต้องตัดสินใจแล้ว จะสู้หรือจะถอย จะถือหรือเผ่นดี
