ในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีหุ้นตัวใดที่ร้อนไปกว่า หุ้นบริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JCK เพราะราคาพุ่งขึ้นตลอด และ 4 วันทำการที่ผ่านมา ราคาพุ่งบนเพดานสูงสุดติดต่อ โดยไม่มีปัจจัยสนับสนุน
วันที่ 17 สิงหาคม ราคาหุ้น JCK ยังยืนอยู่ที่ 68 สตางค์ แต่หลังจากนั้นทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันใดที่หยุดพัก จนเมื่อวันพุธที่ 2 กันยายน ราคาปิดที่ 2.06 บาท โดยบวกติดต่อ 12 วันทำการ ราคาเพิ่มขึ้นรวม 1.38 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 200%
ไม่รู้ว่า JCK รอดจากจอเรดาร์ของตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างไร เพราะราคาที่ร้อนแรง ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ปกติ
หุ้นตัวนี้ควรถูกประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย โดยกำหนดต้องซื้อขายด้วยเงินสดแล้ว แต่ตลาดหลักทรัพย์กลับปล่อยให้ JCK วิ่งขึ้นอย่างเย้ยฟ้า โดยมีการส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนแต่อย่างใด
JCK เปลี่ยนชื่อมาจากบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพิ่งรายงานผลการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญหรือวอร์แรนต์รุ่นที่ 5 เป็นครั้งสุดท้าย
ปรากฏว่า จำนวนวอแรนต์ทั้งหมด 241,117,818 หน่วย อัตราส่วนการแปลงสภาพ 1 วอร์แรนต์ 1 หุ้นสามัญ ราคาแปลงภาพ 3.50 บาท มีผู้ใช้สิทธิแปลงสภาพเพียง 338 หน่วยเท่านั้น และมีวอร์แรนต์ รุ่นที่ 5 เหลืออยู่ จำนวน 241,117,480 หน่วย โดยนักลงทุนที่ถือว่าจะมีค่าเหลือศูนย์
ใครที่เข้าไปเก็งกำไร JCK-W5 และถือติดมืออยู่ ต้องหมดเนื้อหมดตัวและไม่มีใครรู้ว่า นักลงทุนที่อาจพลัดหลงตามแห่เขาไปเก็งกำไร JCK ขณะนี้ สุดท้ายจะเจอชะตากรรมอย่างไร
เพราะราคาที่พุ่งทะยานขึ้นมากกว่า 200% เพียงช่วง 12 วันทำการ ไม่สามารถอธิบายถึงปัจจัยสนับสนุนได้
JCK เป็นหุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มี กลุ่มนายอภิชัย เตชะอุบล ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 45% ของทุนจดทะเบียน มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 5,210 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 44% ผลประกอบการบริษัทไม่โดดเด่นนัก โดยขาดทุนหลายปีติดต่อ
ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 491.71 ล้านบาท งวด 6 เดือนแรกปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 277.75 ล้านบาท และไม่เคยจ่ายเงินปันผลมาหลายปี โดยช่วงนี้ไม่มีข่าวดีสนับสนุน
นอกจากนั้น หุ้นกู้ JCK209A วงเงิน 430.40 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 27 กันยายนนี้ บริษัทฯ ได้ออกหนังสือเวียนถึงผู้ถือหุ้น ขอขยายเวลาไถ่ถอนออกไปอีก 1 ปี 6 เดือน โดยจะทยอยไถ่ถอนงวดละ 5% ของวงเงินทุก 3 เดือน นับจากวันที่ 27 กันยายนนี้ รวม 6 งวด วงเงินรวม 30% ส่วนที่เหลืออีก 70% จะไถ่ถอนในวันที่ 27 มีนาคม 2565 และถือเป็นปัจจัยลบต่อตัวหุ้น
การปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง เป็นสิ่งที่สวนทางกับฐานะการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งขาดทุนหนักมาหลายปี จึงไม่มีปัจจัยใดที่กระตุ้นการเก็งกำไร แต่ราคาหุ้นกลับวิ่งมาราธอน 12 วันทำการ
นักลงทุนกำลังจับตา JCK ตั้งข้อสงสัยในความร้อนแรงของราคาหุ้น ซึ่งไม่น่าจะเกิดจากการซื้อขายตามกลไกตลาดปกติ แต่มีความไม่ปกติเกิดขึ้น โดย อาจมีนักลงทุนรายใหญ่ซื้อจุดพลุไล่ราคา
หรือจะมีข่าวดีภายในที่นักลงทุนทั่วไปไม่รู้ แต่มีคนวงในที่รู้ข้อมูลเข้ามาทยอยเก็บหุ้นดักเก็งกำไรข่าวดี
อย่างไรก็ตาม ประเด็นใหญ่ที่นักลงทุนไม่เข้าใจคือ ทำไมตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงปล่อยให้ JCK พุ่งขึ้นอย่างหวือหวามา 3 สัปดาห์ โดยไม่มีมาตรการกำกับดูแล
ทำไมจึงไม่สอบถาม JCK ว่า มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานที่มีนัยสำคัญต่อราคาหุ้นหรือไม่ เพื่อให้ผู้บริหารบริษัทฯ ชี้แจงข้อมูล
JCK ถูกลากขึ้นมายืนอยู่ระดับยอดดอยแล้ว ราคาระดับนี้ ถ้าตามแห่เข้าไปมีสิทธิ “ติดดอย” ง่ายๆ ยืนอยู่ห่างดีไหม ดูว่า ใครกำลังเล่นอะไรกับหุ้นตัวนี้