บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปรากฏว่า กำไรทรุดฮวบ และจุดชนวนให้เกิดการเทขายหุ้น ทันทีที่เปิดการซื้อขายในเช้าวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา จนหุ้นราคาร่วงลงตาม
ไตรมาสที่ 2 BAM มีกำไรสุทธิ 136 ล้านบาท ลดลง 82% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2563 มีกำไรสุทธิ 835 ล้านบาท ลดลง 79.1% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน โดยผลประกอบการที่ลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19
ราคาหุ้น BAM ทรุดลงตั้งเปิดการซื้อขายวันจันทร์ โดยมีแรงขายไหลออกมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 23.30 บาท ลดลง 1.20 บาท หรือลดลง 4.90%
นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 หุ้น BAM ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากราคาจองหุ้นละ 17.50 บาท และ แม้ในช่วงวิกฤต "โควิด-19" ราคาจะทรุดลงต่ำกว่าจอง แต่ก็เพียงระยะสั้นๆ ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาใหม่ และเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ระดับ 23-25 บาทมาพักใหญ่
นักลงทุนเชื่อว่า หุ้นตัวนี้จะได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยเกิดปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้น จะทำให้ประมูลหนี้เสียมาบริหารมากขึ้น
แต่ผลประกอบการครึ่งปีแรกสะท้อนให้เห็นว่า BAM ได้รับผลกระทบจากความซบเซาทางเศรษฐกิจไปด้วย
ผลกำไรที่ลดลง ทำให้ค่า พี/อี เรโช เพิ่มขึ้น จากระดับ 8 เท่า ช่วงเข้าซื้อขาย พุ่งขึ้นเป็นประมาณ 19 เท่า ในปัจจุบัน ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทนที่อยู่ในระดับ 4% เศษ อาจจะถดถอยตามผลกำไรที่ชะลอตัว
BAM เข้าตลาดมาประมาณ 9 เดือน และก้าวขึ้นมาเป็นหุ้นยอดนิยมตัวหนึ่ง โดยจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยพุ่งขึ้นเป็น 39,523 ราย โดยธนาคารแห่งประเทศไทยถือหุ้นใหญ่ 45.79% ของทุนจดทะเบียน และมีกองทุนรวมหลายแห่งถือหุ้นอยู่ด้วย
ราคาหุ้นที่รูดแรงเมื่อวันจันทร์ เป็นผลจากกำไร BAM ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย นักลงทุนจึงไม่มั่นใจแนวโน้มผลประกอบการ และพากันเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง เพราะกำไรที่ลดฮวบจะทำให้เกิดการปรับลดราคาเป้าหมายหุ้น BAM ตามมา
มุมมองหุ้นตัวนี้อาจเปลี่ยนไปแล้ว จาก หุ้นที่เหมาะสำหรับถือลงทุนระยะยาว เพื่อกินเงินปันผล อาจเป็นหุ้นที่ต้องหาจังหวะเก็งกำไรเป็นช่วงๆ เพราะผลประกอบการบริษัทไม่ได้เติบโตอย่างมั่นคง แต่อาจผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองในเชิงบวกหุ้น BAM ยังมีนักลงทุนบางกลุ่มที่มั่นใจอนาคตผลประกอบการ และเห็นว่า ราคาที่อ่อนตัวลง เป็นจังหวะในการซื้อเก็บ จึงทยอยเข้ามาช้อนหุ้นเก็บ จนราคาหุ้นไม่ผันผวนรุนแรงจนเกินไป
หุ้น BAM ซึมซับรับข่าวร้าย ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ทรุดหนัก จนราคาหุ้นถอยไปตั้งหลักที่ระดับ 23.30 บาท
แต่ราคาหุ้นปรับฐานสะเด็ดน้ำหรือยัง และครึ่งปีหลัง ผลประกอบการจะทรุดต่อเนื่องเหมือนครึ่งปีแรกหรือไม่ เป็นการบ้านที่นักลงทุนที่จะหาคำตอบ
เพราะถ้าผลประกอบการครึ่งปีหลังกระเตื้องขึ้น ราคาที่ปรับฐานลงมารอบนี้ อาจเป็นโอกาสซื้อ BAM เก็บ
แต่หากผลกำไรยังทรุดเหมือนครึ่งปีแรก การรีบร้อนเข้าไปช้อนอาจต้องแบก “ของแพง” ติดมือ