ใครที่คิดจะลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ต้องทำใจไว้หน่อย เพราะราคาหุ้นช่วงนี้อ่อนไหวต่อข่าวสารที่พุ่งเข้ามากระทบ พร้อมดิ่งลงตลอดเวลา ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกเทขายอีกระลอก หลังมีข่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งอาจล้ม จนธนาคารแห่งประเทศไทยต้องออกมายืนยันฐานะความแข็งแกร่งของระบบธนาคารพาณิชย์กันวุ่นวาย
อาจารย์รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้เปิดประเด็นธนาคารพาณิชย์อีกครั้ง โดยระบุว่า กำลังมี 3 ธนาคารที่จะล้มละลาย แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า เป็นธนาคารใดบ้าง
การเปิดประเด็น 3 แบงก์ล้มของอาจารย์รังสรรค์ สร้างความตื่นตระหนักให้นักลงทุน จนธนาคารแห่งประเทศไทยต้องรีบออกมาชี้แจงด่วน ระบุว่า ฐานะการดำเนินงานและเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยังมีความแข็งแกร่ง และสามารถรอรับผลกระทบจาก “โควิด-19” ได้
และสิ้นมิถุนายน 2563 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของระบบธนาคารอยู่ที่ระดับสูงถึง 19.2% ขณะที่ผลประกอบการยังมีกำไร รวมทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินและระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีอยู่สูง
แต่คำแถลงของแบงก์ชาติไม่อาจหยุดยั้งความหวั่นไหวของนักลงทุนในตลาดหุ้นได้ จึงเกิดการเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา จนราคาหุ้นทรุดลงแทบทั้งกลุ่ม
ทำให้สถาบันคุ้มครองเงินฝากต้องออกโรงมาตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของระบบธนาคารพาณิชย์ และยืนยันว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝากมีเงิน 1.29 ล้านบาท พร้อมดูและผู้ฝากเงินกว่า 80 ล้านบัญชี
จะมี 3 ธนาคารพาณิชย์อยู่ในข่ายที่อาจล้มละลายจริงหรือไม่ นักลงทุนไม่ต้องการรอข้อพิสูจน์ แต่มี เชื่อเป็นทุนเดิมว่า ฐานะการดำเนินการของธนาคารพาณิชย์กำลังย่ำแย่ จึงมีความกังวลในปัญหาหนี้เสีย ขณะที่ราคาหุ้นดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง
ผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งจากจำนวนทั้งหมด 11 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 77,224 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 26.9% โดยคาดการณ์ว่า แนวโน้มหนี้เสียในระบบธนาคารจะเพิ่มขึ้น ส่วนผลประกอบการมีแนวโน้มชะลอตัว
ฐานะธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบปัจจุบันยังมีความแข็งแกร่งตามที่แบงก์ชาติออกมายืนยัน แต่ถ้าเศรษฐกิจยังฟุบ ผลกระทบจากไวรัส “โควิด-19” ยังไม่จบ ปัญหาหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น จะบั่นทอนผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ และอนาคตอาจกัดเซาะฐานะของธนาคารได้
ในครึ่งปีหลัง แม้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินว่า ผลประกอบการกลุ่มธนาคารจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก แต่ถ้าเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน กำไรยังชะลอตัวอยู่
ยังไม่ได้ยินว่า มีโบรกเกอร์แนะนำให้ลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะการซื้อเพื่อการเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาทิศทางความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ข่าวดีที่จะกระตุ้นหุ้นกลุ่มธนาคารก็ยังมองไม่เห็น นักลงทุนส่วนใหญ่จึงเฝ้าดูหุ้นแบงก์อยู่ห่างๆ
หุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ยอดนิยม 3 แห่งอย่างธนาคารกรุงเทพหรือ BBL ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK และธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ทำท่าจะฟื้นหลายรอบแล้ว แต่สะดุดข่าวร้ายจนเสียจังหวะทุกครั้ง
ข่าว 3 แบงก์ล้ม จนนักลงทุนแห่ทิ้งหุ้นในลักษณะหนีตาย ตอกย้ำให้เห็นว่า หุ้นกลุ่มแบงก์ยังเปราะบางกับปัจจัยที่พุ่งกระทบ เข้าไปไม่ถูกจังหวะ อาจเจ็บตัวกลับออกมา