xs
xsm
sm
md
lg

Jitta Wealth แนะลงทุน New Normal กระจายความเสี่ยงต่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Jitta Wealth
Jitta Wealth เผยตลาดหุ้นไทยหลังโควิด-19 ยังปรับตัวไร้ทิศทาง นักลงทุนหวั่นเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า แนะลงทุนยุค New Normal เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงในหุ้นต่างประเทศด้วยเทคโนโลยี

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด หรือ Jitta Wealth สตาร์ทอัป WealthTech แรกของไทยที่ได้รับอนุญาตบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ชี้สถานการณ์การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยเริ่มทรงตัว หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศผ่อนคลายลง แต่ความไม่แน่นอนยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ของโควิด-19 ในหลากหลายประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อและยอดการเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้น กำหนดการเปิดให้เดินทางเข้าประเทศไทยยังต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในขณะที่การเมืองในประเทศก็กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง บั่นทอนความมั่นใจของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นอันมาก

นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Jitta Wealth กล่าวว่า “การลงทุนในยุค New Normal นี้ นักลงทุนควรให้ความสำคัญต่อการจัดสรรสินทรัพย์ในพอร์ตเป็นพิเศษ พร้อมกระจายความเสี่ยงลงทุนในต่างประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีการลงทุนสมัยใหม่เข้ามาช่วยบริหารจัดการ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน ลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวม และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว”

ทั้งนี้ Jitta Wealth เล็งเห็นว่า การกระจายความเสี่ยงลงทุนในต่างประเทศนั้น ค่อนข้างยุ่งยาก มักต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูง และมีค่าธรรมเนียมแพง จึงได้เปิดตัวกองทุนส่วนบุคคล Global ETF เพื่อทลายกำแพงการลงทุนต่างประเทศ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท และค่าธรรมเนียมบริหารจัดการเพียง 0.5% ต่อปี นักลงทุนสามารถเป็นเจ้าของพอร์ตลงทุนต่างประเทศที่ออกแบบให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงของนักลงทุน พร้อมบริหารจัดการอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี ตามทฤษฎี Modern Portfolio Theory (MPT) ที่นำเสนอแนวทางเพิ่มผลตอบแทนให้สูงที่สุดในระดับความเสี่ยงที่น้อยที่สุด ผ่านการจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท (Asset Allocation) และกระจายความเสี่ยงในแต่ละสินทรัพย์ให้มาก (Diversification) ซึ่งทฤษฎีนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับสากล และได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ประจำปี พ.ศ.2533

โดย Jitta Wealth จะจัดสรรสินทรัพย์และกระจายความเสี่ยงให้นักลงทุนตามหลักการ MPT ผ่านการลงทุนใน ETF (Exchange Traded Fund) ซึ่งเป็นกองทุนดัชนีประเภทหนึ่งที่เน้นสร้างผลตอบแทนล้อไปกับดัชนีอ้างอิง นอกจากนี้ ETF ยังมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านตลาดหุ้นได้ทันที และค่าธรรมเนียมต่ำ จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนทั่วโลก โดยบริษัทวิจัย ETFGI ระบุว่าใน 10 ปีที่ผ่านมา ปริมาณเงินทั่วโลกไหลเข้าซื้อ ETF เพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่า จาก 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 6.35 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีปริมาณการซื้อต่อปีสูงสุดที่ 476,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 สำหรับครึ่งแรกของปีนี้ แม้จะเกิดวิกฤตตลาดหุ้นทรุดฮวบ แต่เงินก็ไหลเข้า ETF แล้วกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีแนวโน้มทำลายสถิติของปี 2561

“กองทุนส่วนบุคคล Global ETF คือเทคโนโลยีการลงทุนยุค New Normal อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะช่วยบริหารจัดการทุกอย่างให้นักลงทุนแบบอัตโนมัติแล้ว ยังทลายพรมแดนการลงทุน ให้ทุกคนได้เปิดรับโอกาสดีๆ จากทั่วโลก ได้กระจายความเสี่ยง ได้จัดสรรสินทรัพย์ในพอร์ตอย่างมืออาชีพ นักลงทุนจึงมีเวลาใช้ชีวิตอย่างสบายใจ มีเทคโนโลยี Jitta Wealth เป็นเพื่อนคู่คิด จึงเป็นทางเลือกที่ดีมากกับการลงทุนยุค New Normal” นายตราวุทธิ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น