ธุรกิจโรงแรม วอนรัฐกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่อง เปิดน่านฟ้าต้องการ์ดห้ามตกเด็ดขาด ผอ.สนง.นครนายก ประเมินยอดจองห้องพักลากยาวถึงปลายปี 63 ระบุหากอุตฯต่างๆ ฟื้นตัว กลุ่มแรงงานมีรายได้ เกิดความมั่นใจ และกล้าออกท่องเที่ยวมากขึ้น
จ.ส.ต.สกล ทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สนง.นครนายก) กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวภาคตะวันออก ในส่วนของความรับผิดชอบใน 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว ว่า ภาพรวมก่อนเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีตัวเลขเติบโตทั้งในด้านปริมาณและมูลค่ากว่า 10% โดยเฉพาะจังหวัดนครนายก ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะสูงกว่า เนื่องจากอยู่ในใกล้กรุงเทพฯ
"พอหลังโควิด-19 เราต้องคิดใหม่ทำใหม่ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา เรามีการล็อกดาวน์ รูปแบบการท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไป ซึ่งเราจะไม่พูดถึงเรื่องปริมาณนักท่องเที่ยว ซึ่งในเรื่องรายได้ เราต้องพยายามกระตุ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของโควิด-19"
โดยแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ได้แก่ 1.ให้ทางสำนักงานทุกจังหวัดมีการกระตุ้นทุกวิถีทาง เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการทุกเซ็กเตอร์ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร โลจิกติกส์ ให้ฟื้นตัวได้รวดเร็ว เพราะความช่วยเหลือจากภาครัฐในบางครั้งอาจจะล่าช้าไปบ้าง
2.เรื่องของแหล่งเงินดอกเบี้ยต่ำ ในภาพใหญ่ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีการจัดสรรงบประมาณมา และอีกส่วนหนึ่งทางสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 45 สำนักงานทั้งประเทศ พยายามจัดกิจกรรม มีโปรโมชันเข้าช่วย มีงบประมาณเข้ามาสนับสนุนผู้ประกอบการทุกลุ่ม
"ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐมีการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศต่อไปอีก เพราะภาครัฐมีกาประเมินโควิด-19 จะอยู่กับเราอีกนาน และผมเชื่อว่าสุดท้ายรัฐบาลก็มีงบประมาณจำกัด การจะเทงบเข้ามาทั้งหมดคงไม่ได้ ทางที่เหลือ คือ ก็ต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และท่องเที่ยวแบบการ์ดไม่ตก แต่บังเอิญ 3 จังหวัดที่ดูแล ไม่ได้อิงกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะพื้นฐานนักท่องเที่ยวของ นครนายก และปราจีนบุรี จะมาจากภาคกลางและภาคตะวันออก คนไทยจะนิยมมาเที่ยวกว่า 95% เรียกว่า 2 จังหวัดนี้ สถานการณ์ท่องเที่ยวเกินภาวะปกติ"
ในด้านอัตราการใช้จ่ายท่องเที่ยวต่อคนต่อเดือน พบว่า เริ่มปรับตัวดีขึ้น เกิดจากมีความต้องการออกมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า เป็นตัวเลขที่สมบูรณ์ โดยจะต้องมีการทบทวนและประเมินอีกครั้งภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ว่าเศรษฐกิจของจังหวัดสระแก้วจะเป็นอย่างไร ยกเว้น จ.นครนายก และสระแก้ว ที่ไม่น่าเป็นห่วง เพราะตอนนี้ห้องพักถูกจองเต็มไปถึงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมแล้ว ปัจจุบัน นครนายกมีโรงแรมให้บริการ 200 แห่ง จำนวน 5,000 กว่าห้อง
"การจองห้องพักยังไม่สามารถที่จะเร่งให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เพราะที่ผ่านมา เกิดการชะลอตัวและความไม่มั่นใจในสถานการณ์ และหากลากยาวไป ผู้ประกอบการอาจจะไม่ไหว ประเมินยากว่าจะไม่ไหวถึงช่วงไหน ตราบใดหลายประเทศทั่วโลกยังไม่นิ่งเรื่องผู้ติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น การจะเปิดประเทศ เราต้องการ์ดไม่ตกเด็ดขาด"
และสิ่งที่กังวล คือ คนไทยเริ่มไม่มั่นใจคนต่างชาติ หรือแม้แต่ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยมานาน การจะล้างอารมณ์ตรงนี้ ค่อนข้างยาก ดังนั้น หากเปิดน่านฟ้าแล้วไม่มีมาตรการที่ดี จะยิ่งทำให้คนไทยมีความรังเกียจมากกว่าไม่เปิดประเทศด้วยซ้ำ
ในส่วนของภาคนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้เริ่มกลับมาผลิตตามปกติ แต่ไม่สามารถส่งออกได้เต็มที่ เพราะยังไม่เกิดการบริโภค ซึ่งเรามองว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นตลาดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเมื่อเจอภาวะเศรษฐกิจ โรงงานชะลอการผลิต ทุกคนก็ต้องหันมาประหยัดและเก็บเงินสดให้มากที่สุด