สระแก้ว - รวบยกแก๊ง! 18 มงกุฎต้มตุ๋นชาวบ้าน จ.สระแก้ว และนครนายก ทำทีหลอกเช่าบ้านและซื้อขายที่ดินติดจำนองจนคนแก่หลงเชื่อเบิกเงินให้รวม 2.4 ล้านบาท
จากกรณีที่ นายบรรหาร เปี่ยมทอง อายุ 77 ปี ชาว อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อวมวลชนว่า ถูกแก๊ง 18 มงกุฎ ทำทีตระเวนหาบ้านเช่าตามชุมชนโดยทำทีอ้างตนเองว่าเป็นผู้จัดการธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ที่ต้องการหาเช่าบ้านให้ลูกน้องพักก่อนออกอุบายให้พาไปดูที่ดินและหลอกให้เบิกเงินสด จำนวน 400,000 บาทให้ก่อนหลบหนีลอยนวลทั้งแก๊ง เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ม.ค.63 ที่ผ่านมา
ทำให้ลูกหลานต้องโพสต์เรื่องราวเตือนภัยลงในโลกออนไลน์ กระทั่งล่าสุด บุตรชายของผู้เสียหายที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า "ขุนเหิน เปี่ยมทอง" ได้โพสต์ภาพผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมระบุข้อความ "วันนี้ดีใจสุดๆ จับได้แล้วโจรป้ายยา ขอขอบคุณสืบวังน้ำเย็น สืบจังหวัดสระแก้ว สืบนครนายก อย่างสูงครับ" ทำให้ผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ (15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังร่วม พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศรีพัฒนสิทธิกร ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว และ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น เร่งหาเบาะแสเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากสร้างความเสียหายและสร้างความหวาดกลัวให้แก่คนในสังคมเป็นอย่างมาก
ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจากภาพในกล้องวงจรปิด จนทราบว่าคนร้ายตามภาพถูกจำคุกอยู่ที่ จ.นครนายก จึงส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบจนพบเบาะแส และมีพยานหลักฐานชัดเจน และได้ประสานข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.นครนายก จนสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีลักษณะเดียวกันในท้องที่ สภ.เมืองสระแก้ว ได้อีก 2 ราย
เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วโดย สภ.เมืองสระแก้ว จึงเดินทางไปรับตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาและส่งตัวไปที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
พ.ต.ท.กฤตพงศ์ โรจน์รุ่งศศิธร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสระแก้ว เผยว่า ผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวมีทั้งสิ้น 4 คน โดยร่วมก่อเหตุฉ้อโกงตากับยายที่มีห้องเช่าในพื้นที่ปางสีดา อ.เมืองสระแก้ว และได้ทำการหลอกลวงว่าจะมีคนมาซื้อที่ดินแต่ที่ดินติดจำนองจึงต้องไปไถ่ถอนคืนก่อน และเมื่อได้กำไรจะนำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งตายายหลงเชื่อจึงไปเบิกเงินสดให้ถึง 2 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.พ.63 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 20 ก.พ.63
นอกจากนั้น ยังพบผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุใน อ.วังน้ำเย็น สระแก้ว และ จ.นครนายก จึงรับตัวมาดำเนินคดีในคดีฉ้อโกงซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ เมื่อผู้ต้องหายอมชดใช้เงินคืนหรือถอนคดีก็จบ แต่คดีนี้มีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 รายที่ยังจับกุมตัวไม่ได้ ตำรวจจึงทำสำนวนส่งฟ้อง ทำให้ผู้เสียหายได้เงินคืนประมาณ 8 แสนบาท จากจำนวนเต็ม 2 ล้านบาท
ด้าน นายบรรหาร เปี่ยมทอง อายุ 77 ปี ผู้เสียหายใน จ.สระแก้ว กล่าวหลังทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้รู้สึกดีใจมาก เพราะอยากจะได้เงินคืนเนื่องจากเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เก็บสะสมไว้ทั้งชีวิต และอยากเตือนให้คนทั่วไประมัดระวัง
สำหรับการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการได้ยกแก๊ง เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กล้าหาญ โชคพิพัฒน์ไพบูลย์ ผกก.สภ.เมืองนครนายก พ.ต.ท.ชินโชติ จินดาเวช รอง ผกก.สส. นำโดย พ.ต.ท.อชิรวิชญ์ แสนคำ สว.สส. พร้อมกำลังชุดสืบสวน
โดยมีผู้ต้องหาประกอบด้วย นางละม่อม เข้มแข็ง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกง (หลอกซื้อขายที่ดิน) ส่วนผู้ต้องอีก 4 ราย ประกอบด้วย นายสมบุญ ทองทา นายวิฑูรย์ ทองทา นายวิชาญ รื่นรวย และนางอนงค์ ส่งเสริม ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่าก่อเหตุในพื้นที่เมืองสระแก้ว ได้เงินสดไป 2 ล้านบาท และที่บ้านวังจำปี อ.วังน้ำเย็น ได้เงินสดไป 400,000 บาท