xs
xsm
sm
md
lg

กทม.ส่งคนกักตัวกลุ่ม 2 กลับบ้านอีก 27 ราย วันที่ 1 พ.ค.จะมีอีก 4 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กทม.ส่งผู้ถูกกักตัวในศูนย์ควบคุม Local Quarantine ครบ 14 วัน กลุ่มที่ 2 กลับบ้านรวม 27 ราย รวมกลุ่มแรกอีก 75 ราย รวมเป็น 102 รายแล้ว ส่วนวันที่ 1 พ.ค.จะกลับบ้านได้อีก 4 ราย

วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ย่านจตุจักร พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานส่งตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศทางด่านบก ที่ผ่านการกักตัวในศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ครบ 14 วัน กลุ่มที่ 2 จำนวน 27 ราย พร้อมมอบหนังสือรับรองการกักตัวครบ 14 วัน หน้ากากอนามัยแบบผ้า จำนวน 2 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 2 ขวด สเปรย์แอลกอฮอล์ จำนวน 2 ขวด และคู่มือการปฏิบัติตัวภายหลังกลับไปอยู่ที่บ้าน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้กักตัวทุกคน

พญ.วันทนีย์ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มอบให้ทุกจังหวัดดำเนินการจัดสถานที่พักเพื่อเฝ้าสังเกตอาการโรคโควิด-19 แก่ประชาชนที่เดินทางข้ามด่านระหว่างประเทศเป็นระยะเวลา 14 วัน (Local Quarantine) เบื้องต้นมีประชาชนเดินทางมาจากด่านจังหวัดสระแก้ว และถูกส่งตัวเพื่อเข้ามาเฝ้าระวังที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 63 จำนวน 76 ราย กรุงเทพมหานครได้จัดให้เข้าพักที่ศูนย์ฝึกอบรม สถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก

ช่วงที่ 2 เป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 63 จำนวน 27 ราย กรุงเทพมหานครได้จัดให้เข้าพักที่ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) เขตทุ่งครุ ต่อมาผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้จัดตั้งสถานที่เฝ้าระวังโรคโควิด-19 สำหรับประชาชนที่เดินทางข้ามด่านระหว่างประเทศ ซึ่งมีภูมิลำเนาในกรุงเทพมหานครขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและความสะดวกสบายแก่ผู้ที่ถูกกักตัวในการเฝ้าสังเกตอาการโรคโควิด-19 ณ ศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ย่านจตุจักร แห่งนี้ โดยสามารถรองรับผู้ถูกกักตัวได้จำนวน 500 ห้อง และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเจ้าของสถานที่ในการอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่และผู้ถูกกักตัวในด้านต่างๆ กรุงเทพมหานครจึงได้ทำการย้ายประชาชนที่ถูกกักตัวทั้งสองช่วงข้างต้น มาเข้าพักตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. 63 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 63 เป็นวันที่ผู้กักตัวกลุ่มแรกจำนวน 75 ราย เป็นชาย 38 ราย หญิง 37 ราย ได้พักจนครบกำหนดการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งทุกคนตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 กรุงเทพมหานครจึงได้จัดพิธีส่งตัวผู้ถูกกักตัวในกลุ่มแรกกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ และในวันนี้ (18 เม.ย. 63) เป็นวันที่ผู้กักตัวกลุ่มที่ 2 จำนวน 27 ราย เป็นชาย 14 ราย หญิง 13 ราย ครบกำหนดการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน และได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว ผลปรากฏว่า ทุกคนไม่พบเชื้อเช่นกัน จึงสามารถกลับบ้านได้ในวันนี้ ทั้งนี้ ยังเหลือประชาชนจากสำนักงานเขตในพื้นที่ที่พักอยู่ในศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพมหานคร แห่งนี้ อีก 4 ราย ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 1 พ.ค. 63

พญ.วันทนีย์ กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ถูกกักตัวทุกท่านที่ให้ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครและทางราชการ ในการเฝ้าระวังและสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน ที่นี่ ขอทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ รักษาสุขภาพตนเองให้แข็งแรงตามคำแนะนำของกรุงเทพมหานครที่ได้ให้ไว้ในระหว่างถูกกักตัว พร้อมกันนี้ ขอชื่นชมและขอบคุณในความเสียสละ ทุ่มเท ของผู้บริหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกท่าน จากทุกหน่วยงาน ที่ปฏิบัติหน้าที่สำเร็จด้วยความเรียบร้อย และขอขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่ให้ความอนุเคราะห์สถานที่ในการจัดตั้งศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศไทย และกรุงเทพมหานครในขณะนี้ นับเป็นคลื่นแรกของการระบาด ซึ่งกำลังมีแนวโน้มลดลง แต่จากการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง คาดว่า จะมีคลื่นที่สองของการระบาดตามมาอย่างแน่นอน ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้ถูกกักตัวครบ 14 วันเท่านั้น แต่ประชาชนทุกคนมีโอกาสในการติดเชื้อ หากไม่ระมัดระวังหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกำหนด

“ขอให้เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนต่างๆ สร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าบุคคลที่ผ่านการกักตัวมาแล้ว คือ บุคคลปกติ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีเชื้อโควิด-19 เช่นเดียวกับคนทั่วไปในพื้นที่ ดังนั้น ขอความร่วมมือทุกท่านในการต้อนรับบุคคลเหล่านี้ด้วยความอบอุ่น ไม่แบ่งแยกหรือรังเกียจกัน เพราะเขาเหล่านี้คือผู้ที่เสียสละในการปฏิบัติตามมาตรการของราชการอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 จนครบ 14 วัน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนรักษาสุขภาพ ระมัดระวังตัวตามมาตรการต่างๆ ได้แก่ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลในทุกกิจกรรม หมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก และสวมหน้ากากอนามัย หากมีข้อสงสัยในเรื่องสุขภาพ สามารถขอคำปรึกษากับศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านของท่านได้ แล้วเราทุกคนจะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” รองปลัด กทม.กล่าว
















กำลังโหลดความคิดเห็น