"คอตโต้" เดินหน้าตอกย้ำแบรนด์ผู้นำเทคโนโลยีสุขภัณฑ์ พัฒนาสู่ Smart Toilet ชูนวัตกรรม Ultra Clean+ สู้เชื้อร้ายโควิด-19 ลดการสัมผัสและการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ตั้งเป้าดัน Smart Toilet พอร์ตหลักของบริษัท พร้อมบริหารธุรกิจให้มั่นคงไปพร้อมกับเศรษฐกิจ
ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้อง สุขภัณฑ์ 'คอตโต้' กับการพัฒนาสินค้าที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตในบ้าน และตอบโจทย์พฤติกรรมของยุคนี้ ซึ่งจากผลการศึกษารวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์จากความต้องการ ทางคอตโต้ พบว่า กลุ่ม Dream Catcher ช่วงอายุระหว่าง 23-38 ปี เป็นชาวสุขนิยมที่มองว่า การมีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการมีเวลาและอิสรภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และกลุ่ม Committed Dreamer อายุระหว่าง 40-60 ปี ชอบดูแลรับผิดชอบชีวิตด้วยตัวเอง ให้ความสำคัญต่อการวางแผนอนาคต นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ คอตโต้ จัดบริการและปรับพอร์ตสินค้าใหม่ ผ่านการลดจำนวนผลิตภัณฑ์ลง เพื่อมุ่งให้ความสำคัญต่อสินค้าเรือธงเป็นหลัก เช่น กลุ่มสุขภัณฑ์ปรับลดจาก 100 รายการ เหลือเพียง 28 รายการ เพื่อบริการกลุ่มสินค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงเพื่อตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และนำเสอนสินค้าที่สนองต่อการดูแลสุขภาพและมีสุขอนามัยที่ดี ทั้งต่อลูกค้าและคนในครอบครัว
นายอนุวัตร เฉลิมไชย Head of Ceramic Business ในธุรกิจเอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เผยว่า ในสถานการณ์ที่โรคโควิด-19 อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง เพราะยังไม่มีวัคซีนป้องกัน คอตโต้จึงได้ปรับกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภค ที่ต้องรักษาความสะอาดเพื่อให้ปลอดภัยจากเชื้อโรคที่อยู่รอบตัว โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภทสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ให้เป็น Smart Toilet ซึ่งจะเป็นเทรนด์ในอนาคตที่กำลังเติบโต และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
"ก่อนหน้านี้้ เรากังวลเรื่องมลพิษฝุ่น PM 2.5 เรื่องภัยแล้ง การประหยัดน้ำ แต่เมื่อเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การลดสัมผัส จะยิ่งช่วยลดการแพร่ระเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ในปีนี้และเทรนด์ปี 2564 เราจึงมีกลยุทธ์และการดำเนินงานของสุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์คอตโต้ ให้มีความอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราต้องพยายามทำ New Normal ให้เป็น Normal เราได้เห็นเทรนด์ของโลกอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมา สุขภัณฑ์ที่เข้ามาในไทยมีตัวเลือกไม่เยอะ ดีไซน์บางอย่างอาจจะไม่ตอบโจทย์ ที่สำคัญ ราคาจับต้องได้ก็เป็นสิ่งจำเป็น ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า จะไหวหรือเปล่า ความจำเป็นแค่ไหน ถ้าจะปรับปรุงห้องน้ำ แต่ตอนนี้สิ่งที่ คอตโต้ทำลงตัวทุกอย่าง เราพัฒนาสินค้า ทั้งไลน์สุขภัณฑ์อัจฉริยะ มีก๊อกน้ำ Sensor ออกมา และล่าสุดการเปิดตัวสุขภัณฑ์ไร้สัมผัส เป็นตัวเลือกที่ครบ และการที่เราพัฒนาเทคโนโลยีออกมา เป็นแบรนด์ที่ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเราทำราคาที่จับต้องได้ด้วย ให้ผู้บริโภคใช้ของที่ดี มีความสะดวก และถูกสุขลักษณะด้วย" นายอนุวัตร กล่าว
สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 นี้ บริษัทพัฒนานวัตกรรมการเคลือบผิวบริเวณข้างในโถสุขภัณฑ์ด้วยสาร Ultra Clean+ ที่ผ่านมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสารเคลือบตัวใหม่ที่พ่นบนชั้นเคลือบที่อยู่บนชั้นเนื้อดินดิบ นำไปเผาในอุณหภูมิสูง ทำให้สุขภัณฑ์ทนทานต่อการขัดถู มาประยุกต์ใช้กับสุขภัณฑ์ ซึ่งสามารถทำลายผนังเซลล์และลดการเจริญเติบโตของเชื้อแบทคทีเรียได้มากกว่า 99% ล่าสุด บริษัทได้นำนวัตกรรมมาใช้กับสุขภัณฑ์ Touchless Seried ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ สุขภัณฑ์รุ่น Mood สุขภัณฑ์รุ่น Micc และสุขภัณฑ์รุ่น Hercules Curve ด้วยเทคโนโลยี Waving Sensor system หรือเทคโนโลยีระบบชำระล้างไร้สัมผัสเป็นครั้งแรก ทำให้สุขภัณฑ์รุ่นนี้ มีความโดดเด่นถึง 3 ด้าน คือ สุขอนามัยที่ดี มอบความสะดวกสบายในเรื่องระบบการชำระล้าง และการแก้ไขปัญหาและบำรุงรักษาได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนทำการสื่อสารตลาดผ่านช่องทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในยุค New Normal อีกด้วย นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทมีแผนพัฒนาในกลุ่ม Smart Toilet เพิ่มเติมและให้กลายเป็นพอร์ตสำคัญของคอตโต้ โดยจะมีการเปิดตัวสินค้าชุดใหม่ในช่วงปี 2564 ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าสำหรับกลุ่มสินค้าประเภท Smart Toilet ในปีนี้ให้เติบโตขึ้นโดยมีมูลค่า 8-10% พร้อมตั้งเป้ามียอดขาย 5,000 ชุด หรือประมาณ 300 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่เราทำได้ มุ่งเจาะกลุ่มผู้ซื้อมากกว่าลูกค้าโครงการ โดยในช่วง 6 เดือน มียอดขายไปกว่า 2,000 ชุดแล้ว
อย่าแข่งตัดราคา เชิญชวนสร้างมูลค่าตลาดให้โต
นายกิตติพงษ์ โพธิ์ธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด เผยว่า สินค้าที่เปิดตัวในแคมเปญ Health and Clean+ Day นั้น เป็นการเปิดตัวเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำ ตอกย้ำความคิดของผู้นำจริงๆ เรามีสินค้าอยู่หลายกลุ่ม อย่างเช่น VERZO ตัวล่าสุดของคอตโต้ ที่อุดมด้วยเทคโนโลยี และ OPTIMUM ดีไซน์เรียบหรู เป็นต้น ทั้งนี้ เรื่องพฤติกรรมของลูกค้าในกลุ่ม Smart เราต้องเน้นเรื่องการดูแลตลอดการซื้อของ รวมถึงยังมีบริการ COTTO Fixing ขึ้นมา เพื่อดูแลและตอบสนองความต้องการของลูกค้า
"โจทย์ยากที่สุด คือ การทำอย่างไรให้ตลาดโตเร็วที่สุด และเราสนุกมาก หากทุกคนลงมาทำเรื่องเกี่ยวกับสุขภัณฑ์อัจฉริยะ ยังดีกว่าลงมาแข่งขันตัดราคากัน แต่ทุกคนน่าจะลงมาแข่งเรื่องสร้างมูลค่าใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นดีกว่า ในภาวะปัจจุบัน เราประเมินยากมากเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งที่เราทำได้ คือ การบริหารธุรกิจให้ Stable และดูจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว ธุรกิจต่างๆ ก็เคลื่อนไหวไปกับเศรษฐกิจ" นายกิตติพงษ์กล่าว
ล่าสุด บริษัทได้จัดแคมเปญส่งเสริมการตลาด Health and Clean+ Day ซึ่งจะจัดกิจกรรมภายในร้านบุญถาวร ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายคอตโต้ ทั่วประเทศ และ COTTO bathroom Shop ดอนเมือง โดยจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคมนี้