"อธิบดีกรมธนารักษ์" เผยได้สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และกองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร เร่งรัดดำเนินการ สำรวจ ตรวจสอบ จัดทำฐานข้อมูลอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ศิลปกรรมหรือสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.63 เตรียมแจ้งหน่วยงานผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุฯ ก่อนการรื้อถอนซ่อมแซม ปรับปรุงแก้ไข หรือดำเนินการอื่นใดกับอาคารดังกล่าว ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 สภาผู้แทนราษฎร ให้กรมธนารักษ์ดำเนินการเกี่ยวกับอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม หรือสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของอาคารราชพัสดุดังกล่าว จึงกำหนดให้การดำเนินการเกี่ยวกับอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม หรือสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ เป็นโครงการสำคัญของกรมธนารักษ์ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และดำเนินการต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ.2564
นายยุทธนา กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับอาคารที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ซึ่งได้ปรากฏเป็นข่าวผ่านทางสื่อต่างๆ กรณีที่มีการรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุนั้น จึงได้สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และกองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร เร่งรัดดำเนินการ สำรวจ ตรวจสอบ จัดทำฐานข้อมูลอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรมหรือสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2563
ทั้งนี้ จากการที่กรมธนารักษ์ได้ดูแลอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรมหรือสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ จำนวน 66 หลัง เช่น บ้านขุนพิทักษ์บริหาร จ.พระนครศรีอยุธยา และบ้านหลุยส์ จ.ลำปาง เป็นต้น
นอกจากนี้ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์จะแจ้งให้หน่วยงานผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุปัจจุบันร่วมดำเนินการ สำรวจ ตรวจสอบอาคารดังกล่าว เพื่อตระหนักในคุณค่าของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม หรือสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ โดยก่อนการรื้อถอนซ่อมแซม ปรับปรุงแก้ไขหรือดำเนินการอื่นใดกับอาคารดังกล่าวให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด