บล.เคจีไอประเมินตลาดอสังหาฯ โค้ง 2 ยอดเปิดโครงการใหม่วูบ 55% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่พบยอด presales แนวราบพุ่ง หลังได้กลุ่มเรียลดีมานด์ช่วยหนุน ส่วนตลาดคอนโดฯ มองยอดกระเตื้องแค่ระยะสั้นตามแคมเปญของแต่ละบริษัท แนะเก็บหุ้นที่เน้นแนวราบ AP-LH
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์รายวันว่า จากผลการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นพบว่าในไตรมาส 2/63 (Q2/63) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 5 รายเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 1.72 หมื่นล้านบาท ลดลง 21% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และลดลง 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 62 (YoY)
โดยผู้ประกอบการค่อนข้างระมัดระวังกับการเปิดโครงการใหม่ เนื่องจากมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ใน Q2/63 และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวนมาก เมื่อแบ่งตามประเภทโครงการพบว่าไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่เลยใน Q2/63 เนื่องจากผู้ประกอบการยังคงมุ่งเน้นการระบายสต๊อกเก่าออกไปก่อนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้งบดุล
ขณะเดียวกัน มูลค่าโครงการแนวราบเปิดใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% QoQ ใน Q2/63 เป็น 1.71 หมื่นล้านบาท มาจากโครงการของ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP และ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH
ยอด presales แนวราบพุ่ง หวังเป็นแรงหนุนหลักต่อกำไรปีนี้
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากยอดจอง (presales) รวมใน Q2/63 อยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท (+28% QoQ, -11% YoY) โดยโมเมนตัมของยอด presales ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563 หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ หลายบริษัทพากันจัดแคมเปญส่งเสริมการขายก็ทำให้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดเพราะเจาะกลุ่มผู้ต้องการซื้อจริงมากขึ้น (เรียลดีมานด์)
เมื่อแบ่งตามประเภทโครงการยอด presales ของโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นมากกว่า โดยเพิ่มขึ้นถึง 35% QoQ และ 3% YoY เป็น 2.2 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ยอด presales ของโครงการคอนโดมิเนียมเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 7% QoQ เป็น 5.8 พันล้านบาท ซึ่งได้อานิสงส์จากการอัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างหนัก
สำหรับโครงการแนวราบ ยอด presales ของผู้ประกอบการทุกรายที่มุ่งเน้นไปที่ตลาดระดับกลางถึงบนออกมาน่าประทับใจ ในขณะเดียวกัน ยอด presales ของโครงการคอนโดมิเนียมใน Q2/63 ที่ทิศทางเป็นไปตามระดับของการอัดแคมเปญส่งเสริมการขายของแต่ละเจ้า โดยรวมแล้วประเมินว่ายอด presales ที่แข็งแกร่งของโครงการแนวราบใน Q2/63 จะทำให้ประมาณการกำไรปีนี้ของเรามีอัปไซด์อีก
ในขณะที่ยอด presales ของโครงการคอนโดมิเนียมน่าจะยังคงเป็นไปตามคาด เนื่องจากมองว่าผลบวกจากการอัดแคมเปญส่งเสริมการขายโครงการคอนโดมิเนียมอย่างหนักอาจจะเป็นปัจจัยบวกที่ไม่ยั่งยืน
โดยข้อมูลที่ได้ช่วยยืนยันกลยุทธ์การเลือกหุ้นเป็นรายตัว โดยเน้นหุ้นที่รายได้มาจากโครงการแนวราบระดับกลางถึงบน หรือหุ้นที่มีงานในมือ (backlog) คอนโดมิเนียมในระดับสูง ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ Neutral โดยยังคงเลือก AP เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม (ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 6.90 บาท) และ LH (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท)