GLOBLEX คาด SET แกว่งกรอบ 1,330-1,385 จุด แนะดักทางหุ้นรับอานิสงส์คลายล็อกเฟส 3 ขณะที่ราคาทองคำได้แรงบวกจากกรณีที่สหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษฮ่องกงหลังจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เพื่อปกครองฮ่องกง
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในระดับ 1,330-1,385 จุด โดยมีแรงหนุนจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ต่อเนื่อง หลังจากพบจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 น้อยลง และมีแนวโน้มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งก็มีโอกาสเห็นการผ่อนคลายต่อเนื่องในเฟส 4
ในขณะเดียวกัน ล่าสุดที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ประกอบกับกระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.อนุมัติจัดตั้งกองทุน 5 หมื่นล้านบาทช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ SME ที่เข้าไม่ถึง Soft Loan ซึ่งก็จะส่งผลในเชิงบวกต่อภาคธุรกิจการลงทุน พร้อมกันนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นหลังจากกำลังการผลิตน้ำมันทั่วโลกปรับตัวลดลง และความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังจากหลายประเทศทยอยปลดล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ อาทิ การชุมนุมประท้วงในฮ่องกง แม้กระทบประเทศไทยโดยตรงไม่มาก แต่เป็นความกังวลว่าอาจจะนำไปสู่การปะทุครั้งใหม่ของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมทั้งเหตุจลาจลในสหรัฐอเมริกาหากมีการขยายวงกว้างและยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปัจจัยภายในประเทศจากความไม่แน่นอนของเสถียรภาพการเมือง ปัญหาภัยแล้งในประเทศที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้ และกำลังซื้อของเกษตรกร
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน พ.ค.ของจีนในวันที่ 3 มิ.ย. เช่นเดียวกับอียูที่จะมีการรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน พ.ค. อัตราว่างงานเดือน เม.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน เม.ย. รวมทั้งสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน พ.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน พ.ค. ดัชนีภาคบริการเดือน พ.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน เม.ย. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์
ส่วนวันที่ 4 มิ.ย. กระทรวงพาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ ขณะที่ในต่างประเทศทางอียูจะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดุลการค้าเดือน เม.ย.
ด้าน นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากการปลดล็อกเฟส 3 ครั้งนี้ ทำให้หุ้นที่น่าจับตาซึ่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการผ่อนคลาย เช่น SPA, MAJOR, CRC, CPN, SF และ HMPRO
ขณะที่ราคาทองคำได้แรงบวกจากกรณีที่สหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษฮ่องกงหลังจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เพื่อปกครองฮ่องกง นอกจากนี้เกิดการจลาจลในสหรัฐฯ กว่า 50 เมือง หลังชายผิวดำเสียชีวิตขณะที่ตำรวจผิวขาวเข้าจับกุมส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าและหนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ทางฝ่ายวิจัย คาดว่าราคาทองคำจะผันผวนในกรอบ 1,715-1,760 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือ 25,790-26,530 บาทต่อบาททองคำ โดยเน้นซื้อเมื่ออ่อนตัวและขายทำกำไรที่แนวต้าน