GLOBLEX เผย SET ดีดขึ้นจากหวังคลายล็อกดาวน์เฟส 3 ให้กรอบ 1,320-1,350 จุด แนะลงทุนหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการโดดเด่นในไตรมาส 2/63 ได้แก่ WICE, TASCO และ CPF รวมถึงยังแนะนำหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จาก กนง.ลดดอกเบี้ย เช่น BAM, MTC, SAWAD และ SINGER
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากคาดหวังกรณีพิจารณาผ่อนปรนในระยะ 3 และ 4 ตามลำดับ หลังจากที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งการปรับเวลาเคอร์ฟิวให้สอดคล้องกัน รวมทั้งประเด็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมหารือปลดล็อกการเดินทางท่องเที่ยวภายในเดือน มิ.ย.นี้ ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยมองกรอบดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,320-1,350 จุด
ในทางกลับกัน หากพิจารณาปัจจัยภายนอกประเทศ ยอมรับว่าดัชนียังมีแรงกดดัน จากกรณีที่ประเทศจีนมีแผนจะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งส่งผลให้เกิดการชุมนุมประท้วงขึ้นที่ฮ่องกง และสร้างความไม่พอใจให้สหรัฐฯ ประกอบกับการที่จีนระงับการกำหนดเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำปี 2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจจีนเผชิญกับความไม่แน่นอน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเข้ามาเป็นตัวแปรต่อตลาดหุ้น
พร้อมกันนี้ ฝ่ายวิจัยยังแนะนำจับตาทิศทางการลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศ อาทิ การกำหนดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 26 พ.ค. การกำหนดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อบรรเทาเหตุวิกฤตจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ค.นี้ ขณะเดียวกัน วันที่ 27 พ.ค.จะมีการประชุมทีมเฉพาะกิจ พิจารณาผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมเพิ่มเติมในระยะ 3 และ 4 และวันที่ 29 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการรายงานภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย
ส่วนทิศทางต่างประเทศ ได้แก่ การเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือน มี.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือน พ.ค. และดัชนีการผลิตเดือน พ.ค.ของสหรัฐฯ ในวันที่ 26 พ.ค.นี้, วันที่ 27 พ.ค.จีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. สหรัฐฯ เปิดผยดัชนีภาคการผลิตเดือน พ.ค.จากเฟดริชมอนด์ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเช้าวันที่ 28 พ.ค.
และในวันเดียวกัน สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน เม.ย. GDP Q1/2563 (ประมาณการครั้งที่ 2) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือน เม.ย. และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ และสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือน พ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค.วันที่ 29 พ.ค. อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน เม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค.
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในขณะนี้ โดยแนะนำลงทุนหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการโดดเด่นในไตรมาส 2/2563 ได้แก่ WICE, TASCO และ CPF รวมถึงยังแนะนำหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ย เช่น BAM, MTC, SAWAD และ SINGER
ขณะที่ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำยังคงผันผวนในกรอบ 1,700-1,750 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือ 25,690-26,520 บาทต่อบาททองคำ โดยแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ขึ้นขายลงซื้อ ตามกรอบสัญญาณดังกล่าวเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยเข้าหนุน
"ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,717-1,764 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยทองคำ ได้รับแรงหนุนจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนรอบใหม่ หลังสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการเพื่อสกัดกั้นการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี และสหรัฐฯ ได้เข้าแทรกแซงการออกกฎหมายปกครองฮ่องกงของจีนที่ออกเพื่อป้องกันและลงโทษการกบฏ การก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน และการแทรกแซงของต่างชาติในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นจะมีแรงขายทำกำไรออกมา เนื่องจากทองคำให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในปีนี้ที่ 11.3% เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น" นายณัฐวุฒิกล่าว