xs
xsm
sm
md
lg

ซีพีเอฟพร้อมขายหุ้นกู้ผ่าน 5 แบงก์ วันที่ 1-2 และ 4 มิ.ย.นี้ ดอกเบี้ย 3.00% ถึง 4.00% ต่อปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ “ซีพีเอฟ” (CPF) กำหนดอัตราดอกเบี้ยต่อปี สำหรับหุ้นกู้ อายุ 4 ปี ที่ 3.00% อายุ 7 ปี ที่ 3.40% อายุ 12 ปี ที่ 3.75% และอายุ 15 ปี ที่ 4.00% พร้อมเสนอขายให้ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 1-2 และ 4 มิถุนายนนี้ ผ่าน 5 สถาบันการเงิน มั่นใจได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เหตุหุ้นกู้ได้รับอันดับเครดิตที่ A+ จากทริสเรทติ้ง สะท้อนความแข็งแกร่งของกิจการและโอกาสในการเติบโตอย่างมีศักยภาพของอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ผลตอบแทนน่าพอใจในภาวะที่การลงทุนโดยรวมยังมีความไม่แน่นอนสูง และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังอยู่ในระดับต่ำ


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” (CPF) ผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบันนั้น ล่าสุดบริษัทฯ ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ดังกล่าว ดังนี้ หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ขณะที่หุ้นกู้อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.75% ต่อปี และอายุ 15 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี จะเสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 1-2 และ 4 มิถุนายนนี้

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและจองซื้อหุ้นกู้ “ซีพีเอฟ” ได้ที่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและจองซื้อหุ้นกู้ได้ที่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท


การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากหุ้นกู้ของ “ซีพีเอฟ” ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ A+ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 ซึ่งสะท้อนสถานะความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทย ตลอดจนการมีฐานการผลิตในหลายประเทศ รวมถึงการมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความยืดหยุ่นทางการเงินจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ สอดคล้องกับความต้องการของผู้ลงทุนที่แสวงหาทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ท่ามกลางภาวะการลงทุนที่มีความไม่แน่นอน และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการออกหุ้นกู้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 และมีการจำหน่ายหุ้นกู้มาแล้วมากกว่า 40 รุ่น ซึ่งไม่เคยมีปัญหาในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย

กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของซีพีเอฟให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจแบบครบวงจรและกระจายความเสี่ยง จึงมีกิจการครอบคลุมทั้ง สุกร ไก่เนื้อ ไก่ไข่ เป็ด กุ้ง และปลา โดยธุรกิจหลัก 3 ประเภท คือ 1. ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) 2. ธุรกิจผลผลิตจากการเลี้ยงสัตว์และแปรรูปเนื้อสัตว์ (Farm and Processing) ได้แก่ พันธุ์สัตว์ สัตว์เพื่อการค้า และเนื้อสัตว์แปรรูปขั้นพื้นฐาน และ 3. ธุรกิจอาหาร (Food) ได้แก่ เนื้อสัตว์แปรรูปกึ่งปรุงสุกและปรุงสุก และสินค้าอาหารพร้อมรับประทานภายใต้ตราสินค้า CP และตราสินค้าของลูกค้า รวมทั้งประกอบกิจการค้าปลีกและร้านอาหาร เช่น CP Freshmart กิจการห้าดาว และร้าน Chester’s ดังนั้น ภาพรวมธุรกิจของซีพีเอฟจึงถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของการดำรงชีวิตซึ่งมีความสำคัญ ไม่ว่าจะในมุมของการเป็นผู้ผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของคนไทย หรือการเป็นผู้สร้างงาน


ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 6,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและอัตรากำไร โดยรายได้จากการขายในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 มีจำนวน 138,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้จากการขายของกิจการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 12% และกิจการในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของธุรกิจการเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ 18% ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 14% โดยมีปัจจัยหลักมาจากกำไรขั้นต้นของธุรกิจสุกรที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากโรคระบาด ASF (African Swine Fever) ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ส่งผลให้ปริมาณสุกรในประเทศเวียดนามลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ราคาขายเฉลี่ยในประเทศเวียดนามปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ (CPF) สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงิน ดังต่อไปนี้

ผู้ลงทุนทั่วไป ติดต่อ

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2888-8888 กด 819

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2777-6784

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2626-7777

ผู้ลงทุนรายใหญ่ ติดต่อ

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2888-8888 ต่อ 819

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2777-6784

ธนาคารออมสิน (จัดจำหน่ายที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น) โทร. 0-2299-9245


กำลังโหลดความคิดเห็น