กสิกรไทยคาด กนง.ลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในไตรมาสนี้เพื่อประคองเศรษฐกิจ พร้อมแนะนำลงทุนในหุ้นกู้เอกชนอายุไม่เกิน 3 ปี ที่ระดับ A+ ขึ้นไป
ในงานสัมมนาออนไลน์ ในหัวข้อ “หุ้นกู้ไทยไปต่อได้หรือไม่ ในสถานการณ์ COVID-19” นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งตลาดการเงินโลกกำลังผันผวนอย่างหนักจากการแพร่ระบาด โดยคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยต่อจากนี้ตลอดปี 2563 จะขึ้นอยู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะสามารถเกิดขึ้นได้ 2 กรณี คือ กรณีฐาน (Base case) สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ภายในครึ่งปีแรก และไม่เกิดการระบาดใหม่รอบ 2 กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาในรูปแบบ New Normal หรือหากกรณีเกิดการระบาดใหม่รอบ 2 รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอีกระลอก
สำหรับมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเพิ่มเติม โดยจะลดดอกเบี้ยนโยบายลงเพิ่มทำจุดต่ำสุดครั้งใหม่ มีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ไตรมาสนี้เพื่อประคองเศรษฐกิจ ทั้งนี้ หากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจค่อยๆ เข้าสู่ภาวะปกติ จะส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักสุด ขณะเดียวกัน การบริโภคและการลงทุนภายในประเทศมีแนวโน้มชะลอลงด้วยเช่นกัน การฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติคงไม่เร็วเพราะยังไม่มีวัคซีนและยารักษา ส่วนมาตรการเยียวยาจากภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการเยียวยาด้านรายได้และการจ้างงาน ช่วยบรรเทาผลกระทบของประชาชนให้ประคองการดำรงชีวิตประจำวันเพื่อผ่านวิกฤตไปให้ได้ แต่เศรษฐกิจจะยังคงหดตัวอยู่ในปีนี้
ด้านนายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงมุมมองการลงทุนตราสารหนี้ หลังจาก ธปท.จัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (Corporate Bond Stabilization Fund : BSF) โดยคาดว่าอุปทานพันธบัตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากพระราชกำหนดกู้เงินเยียวยากรณีโควิด-19 จำนวน 1.9 ล้านล้านบาทมีผลบังคับใช้ ส่วนอุปทานหุ้นกู้จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาด อีกทั้งจะมีความผันผวนของตลาดหุ้นกู้เอกชนที่จะได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากภาวะเครดิตที่อาจชะลอลงจากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมหยุดชะงักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับคำแนะนำแก่นักลงทุนถึงผลตอบแทนหากต้องการลงทุนในตราสารหนี้ ดังนี้ จากคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยในระบบจะอยู่ในระดับที่ต่ำต่อไปอีกระยะ ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ยังคงคาดให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน อัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนที่ปรับเพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่ง ทำให้การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนอายุไม่เกิน 3 ปีดูน่าสนใจมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีควรเน้นอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ ขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม KBank Private Banking คาดว่าแม้โควิด-19 จะกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง แต่จะส่งผลกระทบเพียงชั่วคราว และเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เนื่องจากประเมินว่ามาตรการทั้งการเงินและการคลังทั่วโลกจะช่วยพยุงและผลักดันเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะปกติได้ในที่สุด