xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีมองบวกลงทุนตราสารหนี้ ​หุ้นจีน-เทคโนโลยีแกร่งน่าสนใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บลจ.กรุงศรีชี้เป้า 6 กลุ่มกองทุนน่าสนใจ ตราสารหนี้ระยะสั้นสภาพคล่องสูงเหมาะพักเงินช่วงผันผวน ส่วนระยะกลาง-ยาวเหมาะล็อกยิลด์รับดอกเบี้ยขาลง ส่วนต่างประเทศแนะลงทุนตลาดจีน-หุ้นเทคโนโลยี เหตุการฟื้นตัวดีรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลมังกร ส่วนหุ้นเทคโนโลยีแกร่งได้รับผลกระทบน้อยสุดช่วงโควิด แถมมีแนวโน้มดีจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค

รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มุมมองการลงทุนที่เป็นบวกของบริษัททั้งในและต่างประเทศจะมีอยู่ด้วยกัน 6 กลุ่มกองทุน ประกอบด้วย กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น กองทุนกลุ่มนี้เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งตราสารภาครัฐ เงินฝากต่างประเทศ และตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยที่มีคุณภาพด้านเครดิตดี ทำให้มีความผันผวนจากราคาตลาดรายวันในระดับต่ำและมีสภาพคล่องสูง นอกจากนั้นยังได้รับประโยชน์จากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มุ่งเน้นช่วยสนับสนุนสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ และสภาพคล่องในกองทุนรวม ทำให้กองทุนรวมมีความยืดหยุ่นในการบริหารได้ดียิ่งขึ้น โดยแนวโน้มในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้าคาดว่าความผันผวนในตลาดเงินจะค่อยๆ ลดลง และอัตราผลตอบแทนของกองทุนกลุ่มนี้จะทยอยปรับลงตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดภายหลังมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศลง 0.25% ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19 ทำให้นักลงทุนมุ่งเน้นถือครองเงินสดและตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูงเป็นหลัก ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดรองสำหรับตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือปานกลางถึงยาวลดลง นอกจากนั้น ธนาคารกลางทั่วโลกได้เร่งดำเนินการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างมากในช่วงระยะเวลาอันสั้นทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปอยู่ที่ระดับร้อยละ 0-0.25 ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเช่นกันในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ดี ความผันผวนดังกล่าวมีแนวโน้มบรรเทาลง โดยธนาคารกลางแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการพิเศษเพื่อช่วยสนับสนุนสภาพคล่อง นอกจากนั้น ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทยได้ปรับตัวสูงขึ้นพอสมควร จึงคาดว่าตลาดตราสารหนี้จะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น บริษัทยังคงแนะนำให้จัดสรรเงินลงทุนในกองทุนประเภทนี้สำหรับเงินลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น

ส่วนกองทุนผสมที่บริษัทมีมุมมองเป็นบวกจะเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหลายสินทรัพย์พร้อมปรับสัดส่วนให้เหมาะสมกับภาวะตลาด โดยในส่วนตราสารหนี้ผู้จัดการกองทุนได้ลดการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศออกทั้งหมดและได้ปรับเปลี่ยนมาลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐไทยแทนโดยคงอายุการลงทุนไว้ในระดับใกล้เคียงเดิม โดยการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนบริษัทจะยังคงให้น้ำหนักอยู่ที่ 60% ของการลงทุนในตราสารหนี้และคงระยะการลงทุนไว้ใกล้เคียงในระดับเดิมเช่นเดียวกัน ขณะที่การลงทุนในหุ้น กองทุนยังคงเน้นการลงทุนในหุ้นใหญ่ที่มีฐานะการเงินและผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยให้กองทุนมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง และในส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่สินทรัพย์อ้างอิงมีคุณภาพ มีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี

ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ บริษัทมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในประเทศจีนเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนมีทิศทางทรงตัว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมีน้อยลงและส่วนมากมาจากผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ตลาดคาดหวังว่าจะเริ่มเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนมากขึ้น ทั้งการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการกระตุ้นจากภาครัฐ โดยที่ผ่านมาจีนมีการลดดอกเบี้ยนโยบายลง

นอกจากนี้ การลงทุนในต่างประเทศบริษัทมีมุมมองเป็นบวกสำหรับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยในช่วงที่ผ่านมาความกังวลต่อโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อภาพการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดหุ้นโลกน้อยกว่ากลุ่มอื่น และราคาปรับลดลงไม่มากนัก การลงทุนระยะสั้นจากประเด็นของโควิด-19 ในแง่รอการฟื้นตัวของราคาจึงไม่น่าสนใจมากนัก แต่การลงทุนระยะยาวในกลุ่มนี้ยังคงมีความน่าสนใจจากลักษณะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งจะหนุนการเติบโตในระยะยาวของหุ้นกลุ่มนี้

สำหรับการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์หรือกองรีททั่วโลก หรือเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจเข้าลงทุนหลังจากปรับตัวลดลงตามสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อเนื่องจากระดับราคาที่ปรับลดลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวลงต่ำมาก อีกทั้งมาตรการพยุงเศรษฐกิจจากธนาคารกลางโลกจะช่วยให้สินทรัพย์ในกลุ่มนี้ยังคงมีความแข็งแกร่งในระยะยาว
กำลังโหลดความคิดเห็น