“คลัง” เตรียมเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกตัดสิทธิรับเงินเยียวยา ด้วยเหตุผลจากข้อมูลการประกอบอาชีพที่คลาดเคลื่อน สามารถยื่นอุทธรณ์ขอรับเงินจากการว่างงานใหม่ได้ หลังคลังเสร็จสิ้นคัดกรองคุณสมบัติลงทะเบียนจนครบทั้ง 27 ล้านรายแล้ว พร้อมแจงรายละเอียดคุณสมบัติของบุคคลซึ่งอาชีพเกษตรกร และขอให้ผู้ที่ถูกตัดสิทธิเข้าตรวจสอบก่อนหน้าเคยมีรายชื่อเป็นหนึ่งในครอบครัวผู้ประกอบอาชีพเกษตกรหรือไม่ ด้านความคืบหน้าคัดกรองคุณสมบัติรอบแรกสามารถดำเนินการได้แล้ว 7.99 ล้านราย โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้ที่ผ่านเกณฑ์ 1.68 ล้านราย กลุ่มที่ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม 1.53 ล้านราย และกลุ่มที่ไม่ผ่านเกณฑ์อีก 4.78 ล้านราย
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาว่างงานเดือนละ 5,000 บาท รวมเวลา 3 เดือน ได้รับแจ้งผ่านระบบว่าไม่ได้รับเงินเยียวยา เนื่องจากเป็นเกษตรกรหรือเจ้าของกิจการว่า ขอให้ผู้ได้รับข้อมูลดังกล่าวไม่ต้องตกใจ หากพวกตนมั่นใจว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบตามการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จริง เนื่องจากจะเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงการคลังอย่างแน่นอน เพียงแต่กระทรวงการคลังต้องใช้เวลา 7 วันทำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนให้ครบทั้ง 27 ล้านรายเสียก่อน
โดยหลังจากนั้นระบบจะมีการเปิดช่องทางให้ผู้ลงทะเบียนที่ถูกตัดสิทธิจากกรณีดังกล่าว หรือกรณีที่ยังมีข้อมูลการประกอบอาชีพที่คลาดเคลื่อนนั้นสามารถยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาสำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ โดยผู้ที่ผ่านการอุทธรณ์ยังมีสิทธิที่จะได้รับเงินเยียวยาจนครบทั้ง 3 เดือนเช่นเดิม เนื่องจากการให้เงินเยียวยาจะใช้วันลงทะเบียนในการเริ่มนับสิทธิ
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการ สศค. ยังชี้แจงรายละเอียดคุณสมบัติของบุคคลซึ่งอาชีพเกษตรกรว่า ในทุกปีจะทำมีการขึ้นทะเบียนประกอบอาชีพเกษตกรกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่คือกรมส่งเสริมการเกษตร โดยการขึ้นทะเบียนนั้นจะดำเนินการเป็นรายครอบครัว ซึ่งจะต้องมีการระบุถึงจำนวนสมาชิกในครอบครัวมีทั้งสิ้นกี่ราย และยังต้องมีการระบุชื่อสมาชิกแต่ละคนของครอบครัวนั้นๆ ด้วย
โดยระบบการคัดกรองคุณสมบัติตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาทนั้น ระบบจะทำการคัดกรองหัวหน้าครอบครัวที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และสมาชิกในครอบครัวเฉพาะที่ช่วยทำเกษตรกรรรมว่าเป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร ดังนั้น จึงจะทำให้ผู้ที่ลงทะเบียนซึ่งมีชื่อเป็นสมาชิกครอบครัวเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนประกอบอาชีพเกษตรกรไว้ก่อนหน้า จะไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองคุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ดังนั้น ผู้ลงทะเบียนลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ต้องไปตรวจสอบด้วยว่าก่อนหน้านี้ตัวเองได้เคยแจ้งลงทะเบียนอะไรไว้บ้าง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลจะใช้ฐานข้อมูลเกษตรกรชุดเดียวกันนี้เป็นเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร ทั้งในเรื่องค่าเพาะปลูก ค่าใช้จ่ายด้านปัจจัยการผลิต และค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น ดังนั้น ในการคัดกรองของมาตรการเยียวยา 5,000 บาท กำหนดหลักเกณฑ์ให้ครอบครัวที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยทำเกษตรกรรมถือว่าเป็นกลุ่มเกษตรกรไม่ผ่านเกณฑ์ โดยในเร็วๆ นี้ รัฐบาลจะทำมาตรการเยียวยาเพื่อดูแลกลุ่มเกษตรกรเป็นการเฉพาะด้วย
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาทว่า หลังจากการตรวจสอบและคัดกรองตามหลักเกณฑ์แล้วพบว่าในรอบที่ 1 ได้มีการตรวจสอบคัดกรองไปแล้ว 7.99 ล้านราย โดยจากจำนวนนี้สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผ่านเกณฑ์ 1.68 ล้านราย ซึ่งในกลุ่มนี้ได้ทยอยส่ง SMS แจ้งผลการพิจารณาและโอนเงินเข้าบัญชีหรือพร้อมเพย์ที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วในช่วงวันที่ 8-10 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา
2.กลุ่มที่ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม 1.53 ล้านราย โดยการกรอกแบบสอบถามออนไลน์ที่www.เราไม่ทิ้งกัน.com (หัวข้อขอข้อมูลเพิ่มเติม) ขอความกรุณาให้ดำเนินการภายใน 10 วัน นับจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งเพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วซึ่งได้เริ่มทยอยส่ง SMS แจ้งผลการพิจารณาแล้วตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2563 และจะทยอยแจ้งไปจนถึงวันที่ 13 เมษายน 2563 โดยพบว่า ขณะนี้ได้มีผู้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วจำนวนหลายแสนราย
และ 3.กลุ่มไม่ผ่านเกณฑ์ 4.78 ล้านราย จะทยอยได้รับ SMS แจ้งผลการพิจารณาในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2563 โดยส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากได้รับการดูแลผลกระทบจากโควิด-19 โดยรัฐบาลผ่านช่องทางอื่น เช่น ข้าราชการ ผู้รับบำนาญ ผู้ได้รับสิทธิประกันสังคม เกษตรกร เป็นต้น หรือกลุ่มที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น นักเรียน นักศึกษา ซึ่งยังคงมิได้ประกอบอาชีพเป็นหลัก และส่วนหนึ่งได้รับการดูแลผ่านช่องทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือกลุ่มที่ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น ผู้ค้าขายออนไลน์
ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการคลัง ยังกล่าวด้วยว่า การตรวจสอบสิทธิผู้ลงทะเบียนยังคงจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยจะทยอยแจ้งผลการคัดกรองและโอนเงินเยียวยาอย่างต่อเนื่องตลอดทุกวันทำการ โดยในรอบที่ 2 จะเริ่มทยอยส่ง SMS แจ้งผลและโอนเงินเยียวยาในช่วงวันที่ 13-14 เมษายน 2563 ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ประมาณ 6 แสนราย โดยกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งกระบวนการตรวจสอบและคัดกรองโดยเร็วที่สุด เพื่อให้คนทำงานที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ได้รับความช่วยเหลือได้อย่างทันการณ์และตรงตัว