“รมว.คลัง” เผยยังไม่มีข้อสรุปจะจ่ายเงินเยียวยาช่วยให้เกษตรกรครอบครัวละ 3 หมื่นบาทหรือไม่ ยืนยันจะพยายามเร่งสรุปการจัดทำมาตรการโดยเร็ว แต่ไม่แน่ใจจะออกได้ทันในเดือน เม.ย.นี้หรือไม่ เหตุมาตรการช่วยเกษตรกรจะเป็นส่วนหนึ่งในแผนกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท พร้อมชี้แจงการขยายระยะเวลาให้ความให้เงินเยียวยาแก่ผู้ว่างงาน 5 พันบาท จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นตามวงกรอบการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 ที่วางล่วงหน้าไว้ 6 เดือน แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสจบก่อน ก็สามารถยกเลิกการขยายเวลา “เราไม่ทิ้งกัน” ตามความเหมาะสมได้ ย้ำขอประชาชนเชื่อใจรัฐบาลมีเงินมากพอที่ดูแลคนทุกกลุ่ม
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการหารือร่วมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อวางกรอบแนวทางการเยียวยาเกษตรกรสำหรับระยะต่อไปว่า ผลการประเมินโดยเบื้องต้นจะมีข้อมูลเกษตรกรที่ได้ลงทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร และ ธ.ก.ส. รวม 9 ล้านครัวเรือน แต่อย่างไรก็ตาม แม้ในปัจจุบันกระทรวงการคลังจะกำลังพิจารณาถึงตัวเลขการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตกรตามความเหมาะสมก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะให้เงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 30,000 บาทหรือไม่
ส่วนแนวทางการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรนั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะจ่ายเป็นรูปเงินสดตามแนวทางที่รัฐบาลเคยใช้ดูแลเกษตรกรในอดีต อีกทั้งในขณะนี้การดูแลสภาพคล่องถือว่าเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ แม้รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลังยังยืนยันว่าจะเร่งพิจารณามาตรการช่วยเหลือครอบครัวเกษตรกรให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะสามารถออกมาตรการได้ทันภายในเดือน เม.ย.นี้หรือไม่ เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรถือเป็นหนึ่งในโครงการตาม พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งได้แบ่งออกไปดูแลแผนงานด้านสาธารณสุขและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบวงเงิน 6 แสนล้านบาท โดยขั้นตอนการขอใช้เงินจากโครงการนี้จะต้องนำเสนอโครงการต่อคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาด้วย และเมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว ยังต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นลำดับถัดไปด้วย
นอกเหนือจากมาตรการการจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวเกษตกรแล้ว กระทรวงการคลังจะมีมาตรการในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือชาวนาด้วยหรือไม่นั้น นายอุตตม กล่าวว่า เป็นเรื่องของกลไกที่ปัจจุบันดูแลอยู่ อย่างเช่น คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งจะเป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจะพยายามดูแลมาตรการต่างๆ ให้มีความยึดโยง และเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน อีกทั้งยังต้องเป็นมาตรการที่ครอบคลุมถึงเกษตรกรทุกรายด้วย
นายอุตตม ยังได้ชี้แจงประเด็นเรื่องระยะเวลาในการรับเงินเยียวยา 5,000 บาท โดยระบุถึงเหตุผลว่าทำไมถึงบอกว่า 6 เดือนนั้น เนื่องจากในขณะมีการจัดทำกรอบงบประมาณกันอยู่นั้น ได้มีการประมาณถึงการใช้งบประมาณเพื่อที่จะใช้จะดำเนินการมาตรการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากในเวลานั้นยังไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลงเมื่อไหร่ แต่หากหากไวรัสโควิด-19 สามารถจบลงได้ก่อนภายในช่วง 3-4 เดือน รัฐบาลก็จะจ่ายเงินเยียวยาเพียงเท่านั้น
แต่ที่สำคัญหากยังคงมีกลุ่มที่มีความจำเป็นจะต้องช่วยเหลือเพิ่มเติม รัฐบาลก็จะมีงบประมาณไว้รองรับอยู่แล้ว 6 แสนล้านบาท เพื่อให้สามารถเข้าดูแลช่วยเหลือประชาชนได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณสำหรับใช้จัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอีก 4 แสนล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาปรับความเห็นชอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับการดูแลจากรัฐ ส่วนบางกลุ่มที่รัฐบาลได้ให้การดูแลไปแล้ว ก็อาจจจะต้องนำกลับมาพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการหารือร่วมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อวางกรอบแนวทางการเยียวยาเกษตรกรสำหรับระยะต่อไปว่า ผลการประเมินโดยเบื้องต้นจะมีข้อมูลเกษตรกรที่ได้ลงทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร และ ธ.ก.ส. รวม 9 ล้านครัวเรือน แต่อย่างไรก็ตาม แม้ในปัจจุบันกระทรวงการคลังจะกำลังพิจารณาถึงตัวเลขการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตกรตามความเหมาะสมก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะให้เงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 30,000 บาทหรือไม่
ส่วนแนวทางการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรนั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะจ่ายเป็นรูปเงินสดตามแนวทางที่รัฐบาลเคยใช้ดูแลเกษตรกรในอดีต อีกทั้งในขณะนี้การดูแลสภาพคล่องถือว่าเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ แม้รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลังยังยืนยันว่าจะเร่งพิจารณามาตรการช่วยเหลือครอบครัวเกษตรกรให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะสามารถออกมาตรการได้ทันภายในเดือน เม.ย.นี้หรือไม่ เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรถือเป็นหนึ่งในโครงการตาม พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งได้แบ่งออกไปดูแลแผนงานด้านสาธารณสุขและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบวงเงิน 6 แสนล้านบาท โดยขั้นตอนการขอใช้เงินจากโครงการนี้จะต้องนำเสนอโครงการต่อคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาด้วย และเมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว ยังต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นลำดับถัดไปด้วย
นอกเหนือจากมาตรการการจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวเกษตกรแล้ว กระทรวงการคลังจะมีมาตรการในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือชาวนาด้วยหรือไม่นั้น นายอุตตม กล่าวว่า เป็นเรื่องของกลไกที่ปัจจุบันดูแลอยู่ อย่างเช่น คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งจะเป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจะพยายามดูแลมาตรการต่างๆ ให้มีความยึดโยง และเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน อีกทั้งยังต้องเป็นมาตรการที่ครอบคลุมถึงเกษตรกรทุกรายด้วย
นายอุตตม ยังได้ชี้แจงประเด็นเรื่องระยะเวลาในการรับเงินเยียวยา 5,000 บาท โดยระบุถึงเหตุผลว่าทำไมถึงบอกว่า 6 เดือนนั้น เนื่องจากในขณะมีการจัดทำกรอบงบประมาณกันอยู่นั้น ได้มีการประมาณถึงการใช้งบประมาณเพื่อที่จะใช้จะดำเนินการมาตรการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากในเวลานั้นยังไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลงเมื่อไหร่ แต่หากหากไวรัสโควิด-19 สามารถจบลงได้ก่อนภายในช่วง 3-4 เดือน รัฐบาลก็จะจ่ายเงินเยียวยาเพียงเท่านั้น
แต่ที่สำคัญหากยังคงมีกลุ่มที่มีความจำเป็นจะต้องช่วยเหลือเพิ่มเติม รัฐบาลก็จะมีงบประมาณไว้รองรับอยู่แล้ว 6 แสนล้านบาท เพื่อให้สามารถเข้าดูแลช่วยเหลือประชาชนได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณสำหรับใช้จัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอีก 4 แสนล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาปรับความเห็นชอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับการดูแลจากรัฐ ส่วนบางกลุ่มที่รัฐบาลได้ให้การดูแลไปแล้ว ก็อาจจจะต้องนำกลับมาพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
