AAV เผย จับมือ 6 สายการบิน ขอคลังปล่อยซอฟท์โลน 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง หลังคาดต้องหยุดมากกว่า 1-2 เดือน รับโควิด-19 พ่นพิษ ยอมรับปีนี้อาจไม่สามารถทำกำไรได้ตามเป้า ขณะที่ล่าสุดหยุดบริการถึงสิ้น เม.ย. ทุกเส้นทาง พร้อมทบทวนแผนลงทุน ระงับจัดหาเครื่องบิน
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งรวมไปถึงธุรกิจการบินด้วย ทำให้บริษัทร่วมกับ 6 สายการบิน ได้ยื่นหนังสือต่อกระทรวงการคลังเพื่อขอโซฟท์โลน วงเงิน 16,000 ล้านบาท เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบจนต้องหยุดการบินเส้นทางในประเทศ และ ต่างประเทศทั้งหมด โดยล่าสุดคาดว่า จะต้องหยุดบินมากกว่าที่คาดไว้ 1-2 เดือน
"ไม่ใช่แค่สายการบินเราเท่านั้นที่กระทบ ตอนแรกประเมินว่าจะหยุดบินแค่เดือน เม.ย. แต่พบว่า คนติดเชื้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในไทย หรือ ต่างประเทศ ทำให้เราคาดว่า เบื้องต้นอาจต้องหยุดบินออกไป 1-2 เดือน หรือ จนถึงเดือนมิ.ย. และ ลุ้นว่า สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ”นายธรรศพลฐ์ กล่าว
ล่าสุด บริษัทฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ว่าหยุดบินเส้นทางบินภายในประเทศชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 เมษายน 2563 โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารคิดเป็นร้อยละ 59 ของจำนวนผู้โดยสารในปี 2562 และหยุดบินชั่วคราว เส้นทางบินระหว่างประเทศ ตั้งแต่วนัที่ 22 มีนาคม - 25 เมษายน 2563 ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีจำนวนผู้โดยสารส่วนนี้ คิดเป็นร้อยละ 41 ของจำนวนผู้โดยสารในปี 2562
"ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสด และ เงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 3,982 ล้านบาท ซึ่งบริษัทต้องการให้ทางภาครัฐสนับสนุนวงเงินซอฟท์โลน และ ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ นอกจากนี้ยังเดินหน้าลดต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นการรับเงินเดือนที่ลดลงของผู้บริหารระดับสูง และ พนักงานระดับอาวุโส ตลอดจนการหยุดบินชั่วคราว เพื่อสามารถลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าชั่วโมงบิน ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา" นายธรรศพลฐ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ เขากล่าวว่า อาจไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะพลิกมามีกำไร จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 474 ล้านบาท และ รายได้รวมปี 62 อยู่ที่ 41,553.10 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ไวรัสโควิด-19 ซึ่งหากสถานการณ์ต่างๆ กลับมาดีขึ้นก็จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการบินทั้งหมด ไม่ใช่แค่ AAV แต่เพียงรายเดียว
ทบทวนแผนลงทุน ระงับจัดหาเครื่องบิน
นอกจากนี้การประกาศหยุดบินชั่วคราวแล้ว AAV ยังแจ้งตลาดหลักทรัพย์ ในส่วนการบริหารจัดการด้านต้นทุนด้วย โดยล่าสุด ผู้บริหารระดับสูง และพนักงานระดับอาวุโสของบริษัท ได้สมัครใจรับเงินเดือนที่ลดลงตามระดับตำแหน่งอยู่ระหว่างร้อยละ 75 จนถึงร้อยละ 10 ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ความต้องการในการเดินทางลดลงอย่างมากได้ อีกทั้งเพื่อลดผลกระทบต่อพนักงานในภาพรวม โดยทั่วไปสำหรับค่าใช้จ่ายแปรผัน (Variable Expense) คิดเป็นร้อยละ 70 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ทั้งนี้ การหยดุบินชั่วคราวสามารถลดค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าชั่วโมงบิน ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาส่วนแปรผัน ค่าใช้จ่ายในสถานี ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณปูโภค รวมถึงค่าใช้จ่ายการบริหารทั่วไปจากนโยบายให้ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home)
นอกจากนี้ ได้ระงับการเดินทางที่ไม่จำเป็นของพนักงาน และระงับการสรรหาพนักงานใหม่ไว้ชั่วคราว พร้อมทั้งยังคงแสวงหามาตรการลดต้นทุนเพิ่มเติม
บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมด้านสภาพคล่องให้สามารถดำเนินการอยู่ได้อย่างต่อเนื่องเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย โดย ณ สิ้นปี 2562 บริษัทฯ มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 3,982 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามที่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ว่าด้วยการเข้าทำธุรกรรมขายอากาศยานและเช่ากลับจำนวน 9 ลำ และขายอากาศยานจำนวน 1 ลำ โดย บริษัทฯ ได้ทำธุรกรรมแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ซึ่งมีเงินสดสุทธิที่ได้รับภายหลังการชำระคืนเงินกู้และค่าใช้จ่าย และยังอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุน โดยบริษัทอาจจะระงับหรือชะลอการ ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง นอกจากนี้บริษัทกำลังพิจารณาจำนวนฝูงบินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและ อาจระงับการจัดหาเครื่องบินเพิ่มในปีนี้